
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เตือนภัยระบุข้อความว่า “ฝากแชร์หน่อยนะคะคนร้ายต้องมารับผิด เราโดนแท็กซี่ลวนลามและลักทรัพย์มูลค่าประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท เหตุเกิดวันที่16 พ.ย.65 เวลาประมาณตี 5 จากถนนข้าวสารถึงเดอะมอลล์งาม วงศ์วานเราได้นั่งแท็กซี่กลับจากข้าวสาร จำทะเบียนไม่ได้ ระหว่างบนรถแท็กซี่ได้ชวนกลับห้องแล้วถามมีแฟนไหม ระหว่างทางเขาหันมาใช้มือลวนลามเราเพราะเราเผลอหลับแล้วรู้สึกตัวขึ้นมา โทร ศัพท์มือถือหาย เขาได้ให้เรารีบๆ ลงจากรถ และบอกไม่เก็บค่าโดย สาร เราขอให้เขาคืนโทรศัพท์เราเขาไม่คืน ได้แต่รีบๆให้เราลง เราตัดสินใจลงจากรถเพราะกลัวโดนทำร้ายร่างกาย พอลงจากรถแล้วเช็คแอปเปิ้ลไอดีแล้วว่าอยู่ที่เขา เขาได้กดออกจากแอปเปิ้ลไอดีไปตอนเช้าไปแจ้งความก็เหมือนไม่ได้เรื่องอะไร เขาให้ไปอีกโรงพักนึง อีกโรงพักนึงก็ให้ไปอีกที่
สรุปไปแจ้งที่สน.รัตนาธิเบศร์ ได้แต่ใบดูกล้องวนจรปิด คือมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ใช่ไหมเขาเลยไม่สนใจไปศูนย์ดีแทคพนักงานกดบัตรบอกให้ดูตำแหน่งไม่ได้เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เขาพูดแบบนี้มาเราเสียความรู้สึกมากตำรวจถามว่าทำไมเรายอมลงจากรถ คือต้องให้เราโดนทำร่างกายก่อนหรอตอนนี้อยากได้ทะเบียนคนร้าย เขาทำเราแต่เขาสบายใจเรามานั่งเครียดกินไม่ได้นอนไม่ได้ ต้องตามเรื่องเองทั้งหมด ทำไมทุกอย่างต้องเป็นเรื่องใหญ่ถึงจะดำเนินการให้ได้ นี่แหละประเทศ ไทย คนที่คิดฆ่าตัวตายเวลาโดนลักทรัพย์เพราะมันหมดหนทางแล้วจริงๆ คนแบบนี้ไม่น่ามาทำ งานขับแท็กซี่ เราเชื่อว่าเขาคงไม่ได้ทำกับเราคนเดียว เราคนแบบนี้ก็สมควรได้รับโทษตอนนี้เราหมดหนทางแล้วจริงๆของมูลค่า4หมื่นกับจิตใจที่บอบช้ำของเรา “
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 วันที่ 18 พ.ย.65 ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี น.ส.ธมลวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี อาชีพขายของออนไลน์ ชาวกทม.เดินทางเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท. ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รองผกก.สส. หลังสอบปากคำ น.ส.ธมลวรรณ เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนขึ้นรถแท็กซี่มาแล้วหลับในรถ ตนรู้ตัวไม่ได้หลับสนิท รู้สึกตัวว่ามีคนลวนลาม จับหน้าอก จับตัว ก็พยายามขยับแต่ไม่กล้าโวยวายเพราะอยู่กันแค่ 2 คน ตอนนั้นน่าจะถึงเดอะมอลล์แล้ว ตนจะลงจากรถก็ขอโทรศัพท์คืน คนขับแท็กซี่บอกว่าไม่ได้เอาไป เพราะตนไม่ได้เอาขึ้นมา และบอกให้ตนลงไปเลยจะรีบไปส่งรถ ตนบอกว่าขอหาโทรศัพท์ก่อน ตนยังโทรหาน้องอยู่เลย ตนไม่ได้เมาขนาดนั้น เพราะก่อนขึ้นแท็กซี่ตนนั่งกินข้าวและใช้มือถือโอนเงินอยู่ เขาก็ให้ลงและไม่เก็บค่าโดยสาร ตนถามเขาว่าค่ารถเท่าไหร่ก็บอกไม่เอาๆจะรีบไปส่งรถ ตอนนั้นเห็นค่ามิเตอร์ 130 กว่าบาท ซึ่งตนจำทะเบียนไม่ได้ คนขับอายุประ มาณ 30 ดูวัยรุ่นอยู่ ตอนที่ลงจากรถตนลงเดอะมอลล์งามวงศ์วาน เขาก็จอดเลยไปหน่อยหน้าโรงจำนำ เพื่อนที่ตนโทรหาสามารถยืนยันได้ว่าตนโทรไปแต่ไม่ได้รับ เบอร์ที่หายคือ 099-057-xxxx ระบบดีแทค รายเดือน เมื่อวานโทรติดอยู่ เขาเพิ่งปิดเครื่องเมื่อตอนเช้านี้ จริงๆโทรศัพท์ตนต้องแบตหมดนานแล้ว และตนกลับไปแจ้งความที่ข้าวสารด้วย ตนตามจับสัญญาณไว้เขากดออกเพราะตนไม่ได้ล็อคหน้าจอ แต่ตอนนี้ตามไม่ได้แล้ว พิกัดล่าสุดคือวัดกัลยาณมิตร ตอนนั้นรถมันขับเร็วมากและไปจอดที่วัดกัลยานมิตร และพอตนกดให้สัญญาณมันล็อคเครื่องส่งเสียง เขาก็กดออกเลย ทรัพย์สินคือโทรศัพท์อย่างเดียว ราคาประมาณ 46,000 บาท เป็นไอโฟน 14 โปรแม็กซ์ ใหม่ล่าสุด ตนเสียดายเพิ่งซื้อมาได้ 2 เดือนเอง
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. รัตนาธิเบศร์ได้นำตัวผู้เสียหายไปดูจุดเกิดเหตุ และแจ้งข้อหาผู้ต้อง หาที่ก่อเหตุข้อหาลักทรัพย์ อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย.
Discussion about this post