น.ส.ภคอร บัวจูม อายุ 43 ปี เจ้า ของร้านจำหน่ายเคสโทรศัพท์มือถือ ชาว ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะ เกษ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.วีรวิชญ์ ศรีโพนดวน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ว่าถูกคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 40-45 ปี รูปร่างผอม สูงประมาณ 175-180 เซนติ เมตร สวมเสื้อคอกลมแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบ ขโมยกระเป๋าสะพายของผู้หญิง สีดำ พร้อมสิ่งของมีค่าในกระเป๋าและโทรศัพท์มือถือหลบหนีไป เหตุเกิดที่บริเวณตลาดนัดวันจันทร์และวันศุกร์ แยกซุ่นเฮงพลาซ่า ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรี สะเกษ
น.ส.ภคอร บัวจูม อายุ 43 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังเปิดร้านจำหน่ายสินค้าในตลาดนักดังกล่าว ตนและพนักงานของร้าน ได้สังเกตเห็น ผู้ชายที่ก่อเหตุ มาพร้อมกับผู้หญิงวัยกลางคน ซึ่งผุ้หญิงคนดังกล่าวได้อุ้มเด็กวัยประมาณ 2 ขวบ มาด้วย ลักษณะคล้ายเป็นครอบครัว พ่อ แม่ ลูก เข้ามาในร้าน ทำทีเลือกซื้อสินค้าภายในร้าน คนละฝั่ง แยกย้ายกัน และฝ่ายหญิงได้ถามหาสินค้าเคสที่ตรงกับรุ่นโทรศัพท์ของตัวเอง พนักงานจึงเลือกให้ แล้วบอกไม่ถูกใจ จากนั้นได้เดินออกจากร้านไป
ต่อมาไม่นาน ครอบครัวดังกล่าว ได้ย้อนกลับมาเลือกของในร้านอีก แต่ก็ไม่ได้ซื้อของในร้านแต่อย่างใด แล้วเดินกลับออกไปอีกรอบ จากนั้นตนได้วางกระเป๋าสะพาย พร้อมกับโทรศัพท์มือถือไว้ที่เก้าอี้นั่งหลังร้าน ซึ่งเป็นพื้นที่โล่ง และมีพนักงานเฝ้าในร้านอยู่ 2 คน จึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร แล้วเดินออกไปทำธุระนอกร้าน จากนั้นคนร้ายรายดังกล่าว ได้ย้อนกลับมาที่ร้านอีกครั้ง โดยพนักงานพบว่าฝ่ายหญิงอุ้มลูก ทำทีเลือกสินค้า เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ขณะเดียวกันฝ่ายชายผู้ก่อเหตุ ได้เดินเข้าไปในร้านขายเสื้อและกางเกง ซึ่งอยู่ติดกัน โดยในจังหวะนั้นคนร้ายได้หันมายิ้มให้กับพนักงานคนหนึ่ง แล้วทำทีเลือกเสื้อผ้า จนมาใกล้กับจุดที่วางกระเป๋า เมื่อพนักงานเผลอ ได้หยิบเอากระเป๋าสะพาย พร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างกระเป๋า โดยฝ่ายหญิงได้อุ้มลูกแล้วเดินออกจากร้านไปก่อน จากนั้นฝ่ายชายก็เดินตามออกไปแบบเร่งรีบ
กระทั่ง พนักงานในร้าน จะเดินมานั่งพักดื่มน้ำที่หลังร้าน ปรากฏว่าไม่เห็นกระเป๋าของเจ้าของร้านวางอยู่ จึงรีบวิ่งออกมาแจ้งให้ตนทราบ จากนั้นได้ไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณปากทางเข้าออกตลาดนัด จึงพบว่าเป็นชายคนที่เข้ามาเลือกซื้อของในร้านคนนี้อย่างแน่นอน เพราะตนจำกระ เป๋าที่คนร้ายสะพายได้ ว่าเป็นกระเป๋าของตนจริง และพยายามโทรศัพท์ไปยังหมายเลขที่ถูกขโมยไป ตอนแรกมีสัญญาณแต่ไม่มีผู้รับสาย จากนั้นได้โทรอีกทีปรากฏว่าปิดเครื่องโทรศัพท์ ติดต่อไม่ได้
ทั้งนี้ทรัพย์สินที่หายไป ประกอบด้วย เงินสดรวมกว่า 5,000 บาท บัตรเอทีเอ็ม เอกสารสำคัญ และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ วีโว่ รุ่น วี20 สีน้ำเงินม่วง มูลค่ากว่า 10,000 บาท จากนั้นตนจึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสอบเพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตนอยากฝากถึงคนร้ายผู้ที่ก่อเหตุ ว่า อย่าทำแบบนี้อีก เพราะว่าแม่ ค้าหาเงินทุกวันนี้ลำบากมาก ไม่มีกินจริงๆ ขอกันดีๆก็ได้ ให้ได้ เพราะเข้าใจดี ทุกคนลำบากกันหมด แม่ค้าที่ทำมาหากินกันอยู่ทุกวันนี้ก็ลำบากกันทั้งนั้น มีแต่คนลำบาก ไม่มีใครอยู่สุขสบาย อย่าทำตัวมักง่ายแบบนี้ ขอให้สงสารคนทำมาหากิน หาเช้ากินค่ำอย่างพวกเราบ้าง กระเป๋าตนจริงๆก็ไม่เคยวางไกลจากตัว แต่นี้ไม่ถึง 2 นาที กระเป๋าตนหาย ตนก็รู้สึกเสียใจและเหนื่อยล้าจากเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้น เพราะกว่าจะหาได้แต่ละบาท แต่ละสตางค์ มันยากลำบากมาก.
Discussion about this post