
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ที่โรงแรมชีวาโขง อ.เมือง จ.นคร พนม นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จัดแถลงข่าว “เปิดเส้นทางคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ต้น แบบจังหวัดนครพนม” โดยมี นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผอ.ททท.สำนักงานนครพนม นายคงกริช พงษ์พันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศ มนตรีเทศบาลเมืองนครพนม นายชาญยุทธ อุปพงษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม ร่วมแถลงข่าว
จังหวัดนครพนมเปิดเส้นทางคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ จับมือเครือข่ายต้นแบบการท่องเที่ยว BCG จัดโปรแกรมท่องเที่ยวตามวิถี Low Carbon “เที่ยวนครพนม สุขเต็มที่ ดีต่อโลก” นำร่อง 3 เส้นทางวัฒนธรรม ชวนสัมผัสวิถีชุมชนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยปัจจุบันกระแสการท่องเที่ยวทั่วโลกและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญเรื่องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการปรับตัวในด้านต่างๆเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสู่วิถีความปกติใหม่ (Next Normal) รวมถึงการจัดการการท่องเที่ยวและบริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สอด คล้องกับวิถีใหม่ให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพอย่างยั่งยืน ภายใต้สถานการณ์สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด 19) ที่ต้องการมาตรฐานในเรื่องของการจัดการและรูปแบบกิจกรรมที่เน้นการอนุรักษ์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
จังหวัดนครพนมจึงดำเนินการโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม ด้วยกิจกรรมการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบวิถีคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Tourism) ตอบสนองการเปลี่ยน แปลงสู่ความปกติวิถีใหม่ ด้วยแนวคิด BCG Economy Model ซึ่งรัฐบาลได้เน้นย้ำในการประชุม สุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิ ฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation) หรือ APEC 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและสอดรับกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พศ.2566-2570) ที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามหลักการและกรอบแนวคิด 4 ประ การคือ หลักปรัชญาของเศรษฐ กิจพอเพียง การสร้างความสามารถ ในการ “ล้มแล้วลุกไว” เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ และการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐ กิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG) เพื่อพลิกโฉมประเทศไทย สู่ “สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน” และเพื่อให้เกิดแนวทางการพัฒนาที่สอดรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในการยกระดับสินค้าท่องเที่ยวคุณภาพและเพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนาการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำของจังหวัดนครพนม (Low Carbon Tourism) มุ่งสู่การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) โดยจัดทำ เส้นทางท่องเที่ยวต้นแบบของจังหวัดนครพนม ขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรองรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมในการลดโลกร้อน (Global Warming) ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases) เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
เส้นทางท่องเที่ยวต้นแบบของจังหวัดนครพนม ได้ออกแบบโปรแกรมเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางหลักโดยรอบ องค์พระธาตุพนม ในพื้นที่ ตำบลนาถ่อน ตำบลพิมาน ตำบลท่าลาด และตำบลหนองสังข์ ที่คำนึงถึงการท่องเที่ยวแบบวิถีคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) ภายใต้แนวคิด BCG Economy Model & Happy Models ด้วยการลดการใช้ทรัพ ยากร ลดใช้พลังงาน ลดขยะ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออก ไซด์ และกระบวนการ วัด ลด ชด เชย ที่มุ่งสู่การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism)
การจัดกิจกรรมภายใต้โครงการประกอบด้วยกิจกรรมหลัก 3 กิจกรรม โดยได้รับเกียรติจาก คุณวีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา รองประธานคณะกรรมาธิการทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานคณะอนุกรรมการการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย และ คุณพวงพันธ์ ศรีทอง ผู้จัดการสำนักส่งเสริมตลาดคาร์บอนและนวัตกรรม องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ร่วมเป็นวิทยา กร
กิจกรรมที่ 1 การพัฒนาศักยภาพและสร้างต้นแบบเครือข่ายการท่องเที่ยวสร้างสรรค์จังหวัดนคร พนม ภายใต้แนวคิด BCG Economy Model & Happy Models ได้มีการอบรมให้ความรู้ สร้างการรับรู้ให้แก่ผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทานด้านการท่องเที่ยว (Tourism Supply Chain) และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงจัดให้มีการร่วมเดินทางไปสำรวจเส้นทางและกิจกรรมท่องเที่ยวของชุมชนชนเผ่าไทกวน ตำบลนาถ่อน อำเภอธาตุพนม จำนวน 42 คน ในวันที่ 17 -18 ตุลาคมที่ผ่านมา และได้จัดตั้งกลุ่มออนไลน์เครือข่ายต้นแบบขึ้นเพื่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ และสร้างสัมพันธ์อันดีอย่างต่อเนื่อง
กิจกรรมที่ 2 การพัฒนาการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำจังหวัดนครพนม (Low Carbon Tourism) สู่การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) สืบเนื่องจากกิจกรรมการสร้างความเข้าใจพื้นฐานเรื่องวิถีคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) ในกิจกรรมที่ 1 ทั้งนี้เพื่อยกระดับองค์ความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น จึงจัดให้มีการอบรมครั้งที่ 2 ที่เน้นให้ความรู้เบื้องต้นด้าน การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) ด้วยการชดเชยคาร์ บอนเครดิต (Carbon Offsetting) ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงสู่ความปกติวิถีใหม่ (Next Normal) เพื่อสร้างจุดแข็งและจุดขาย เพิ่มมูลค่าทางการตลาดและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม และได้นำผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 33 คนเดินทางสำรวจกิจกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ ตำบลพิมาน ตำบลท่าลาด และตำบลหนองสังข์ จำนวน 2 วัน 1 คืน โดยเข้าพักโฮมสเตย์ที่ผ่านมาตรฐานของชุมชนบ้านพิมาน ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้นอกจากมีการวางแผนกิจกรรมการท่องเที่ยวในรูปแบบคาร์บอนต่ำและตอกย้ำแนวคิด BCG แล้ว ยังมีการคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระ จกและชดเชยด้วยคาร์บอนเคร ดิตของการเดินทางครั้งนี้ จำนวน 1,000 kgCo2eq จนเสมือนเป็น การท่องเที่ยวที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความเข้าใจมากขึ้น
การถ่ายทอดองค์ความรู้และการสร้างประสบการณ์ระหว่างการเดินทางสำรวจเส้นทางร่วมกันจึงทำให้มีการออกแบบโปรแกรมสร้างสรรค์ จำนวน 3 เส้นทาง ภายใต้แนวคิด “เที่ยวนครพนม สุขเต็มที่ ดีต่อโลก” ดังนี้
โปรแกรมที่ 1 (เช้าไป-เย็นกลับ) เส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ “เที่ยวนาถ่อน ชนเผ่าไทกวน สุขเต็มที่ ดีต่อโลก” เส้นทางพระธาตุพนม – ชุมชนชนเผ่าไทกวน นาถ่อน – พระธาตุมรุกขนคร – อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ โดยมีระยะทางตลอดเส้นทางไป- กลับ ลานพญาศรีสัตตนาคราช 144 กิโลเมตร มีค่าการปล่อย Carbon Footprint /คน/วัน จำนวน 13 kgCo2eq และชดเชยด้วยคาร์บอนเครดิต/ทริป จำนวน 160 kgCo2eq ให้เสมือนปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (บนพื้นฐานการคำนวณการเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศที่มีนักท่องเที่ยวจำนวน 8 คน) โปรแกรมที่ 2 (เช้าไป-เย็นกลับ) เส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ “เที่ยวพิมาน สุขเต็มที่ ดีต่อโลก” เส้นทางพระธาตุพนม – พระธาตุศรีคุณ – ชุมชนบ้านพิมาน – ล่องเรือชมแม่น้ำโขง โดยมีระยะทางตลอดเส้นทางไป-กลับ ลานพญาศรีสัตตนาคราช 157 กิโลเมตร มีค่าการปล่อย Carbon Footprint /คน/วัน 13 kgCo2eq และได้ทำ การชดเชยด้วยคาร์บอนเครดิต/ทริป จำนวน 160 kgCo2eq ให้เสมือนปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (บนพื้นฐานการคำนวณการเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศที่มีนักท่องเที่ยวจำนวน 8 คน)
โปรแกรมที่ 3 (2 วัน 1 คืน) เส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ “เที่ยวท่าลาด-หนองสังข์ สุขเต็มที่ ดีต่อโลก” วันแรกเส้นทางพระธาตุเรณู รื่นรมย์วิถีลุ่มน้ำก่ำและข้าวหอมนาคาชุมชนบ้านท่าลาด วันที่สองของการเดินทางเส้นทางชนเผ่าไทกะเลิง บ้านหนองสังข์ – พระธาตุศรีคุณ – องค์พญาศรีสัตนาคราช – ล่องเรือแม่น้ำโขง โดยมีระยะทางตลอดเส้นทางไป-กลับ ลานพญาศรีสัตตนาคราช 194 กิโลเมตร มีค่าการปล่อย Carbon Footprint /คน/วัน จำนวน 12.5 kgCo2eq (25 kgCo2eq ต่อคน/ 2 วัน) และทำการชดเชยคาร์บอนเครดิต/ทริป จำนวน 300 kgCo2eq ให้เสมือนปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (บนพื้นฐานการคำนวณการเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศที่มีนักท่องเที่ยวจำนวน 8 คน)
กิจกรรมที่ 3 การจัด FAM TRIP (Familiarization Trip) เชิญกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดร่วมเดินทางเพื่อสร้างการรับรู้ ส่งเสริมการตลาด การขาย การประชาสัม พันธ์ และร่วมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิ์เป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) ของจังหวัดนครพนม โดยมีการเชิญกลุ่มเป้าหมายสำคัญจำนวน 25 รายจากหน่วยงานต่างๆได้แก่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมผู้ประ กอบการนำเที่ยวไทย (สนท.) สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) สมาคมการค้าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีสาน (สอทอ.) สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น สภาอุตสาห กรรมท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น หอการค้าจังหวัดขอนแก่น ผู้สื่อข่าวจากส่วนกลางและบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เดินทางมาสำรวจ ศึกษากิจกรรมสร้างสรรค์และเส้นทางที่ได้มีการออกแบบจัดทำขึ้นโดยเดินทางร่วมกับตัว แทนจากเครือข่ายต้นแบบการท่องเที่ยว BCG นครพนม ระหว่างวันที่ 23 – 24 พฤศจิกายนนี้ และเพื่อร่วมงานแถลงข่าว “เปิดเส้นทางคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ต้น แบบจังหวัดนครพนม”
การจัดกิจกรรมภายใต้โครงการนำร่องสร้างต้นแบบเส้นทางท่องเที่ยวครั้งนี้ได้มีการจัดตั้ง “เครือข่ายต้นแบบการท่องเที่ยว BCG นครพนม” เพื่อร่วมกันกระตุ้นการท่องเที่ยววิถีคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) และสร้างการรับรู้แนว คิด BCG Economy & Happy Models ในการยกระดับเพิ่มศักยภาพห่วงโซ่อุปทานด้านการท่องเที่ยวได้แก่ โรงแรมที่พัก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม การเดินทาง แหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะชุมชนในตำบลต้นแบบทั้ง 4 ตำบลรวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวหลักได้แก่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด และสำนักงานทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์กรภาคเอกชน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวนครพนม สภาอุตสาหกรรมจังหวัดและหอการค้าจังหวัด ซึ่งจังหวัดนคร พนมมุ่งหวังที่จะให้หน่วยงานต่างๆที่กล่าวมาแล้วนั้นจับมือกันร่วมขับเคลื่อนเครือข่ายอย่างต่อเนื่องในการยกระดับสินค้าทางการท่องเที่ยวที่มีอยู่แล้วสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูง ร่วมสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ผ่านการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) ให้การท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมเติบโตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนสืบไป24 พฤศจิกายน 2565.
Discussion about this post