
พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ. ทอ.) เป็นประธานในกิจกรรมครบรอบ 50 ปี การบรรจุเครื่องบินโจมตีและธุรการแบบที่ 2 (AU- 23A) Peacemaker เข้าประจำการในกองทัพอากาศ พร้อมโครง การพัฒนาขีดความสามารถ เพื่อให้มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ มีความทันสมัย และสามารถยืดอายุการใช้งานของอากาศยานได้ต่อไป ที่ ฝูงบิน 501 กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นาวาอากาศเอก สิทธิรัตน์ พู่ทรงชัย ผู้บังคับการกองบิน 5 นำข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานกองบิน 5 ให้การต้อนรับเครื่องบินโจมตีและธุรการแบบที่ 2 (AU- 23A) Peacemaker ได้ถูกบรรจุเข้าประจำการในกองทัพอากาศ ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.2515 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 50 ปี ที่ได้ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพอากาศในทุกด้าน อาทิ การลาดตระเวนติดอาวุธ การลาดตระเวนทางอากาศ การลำเลียงทางอากาศ การปฏิบัติการฝนหลวง การบินควบคุมไฟป่า การปฏิบัติการจิตวิทยาและยังได้เข้าร่วมการฝึกทางทหารที่สำคัญต่างๆ เช่น การฝึกร่วมผสม COBRA GOLD และการฝึกผสม BALANCE TEAK TORCH ซึ่งถือเป็นตัวแทนของประเทศที่ได้เข้าสู่การฝึกระดับนานาชาติ รวมถึงการปฏิบัติภารกิจในเหตุการณ์สำคัญของประเทศชาติ ทั้งการป้องกันประเทศด้านความมั่นคง และด้านการพัฒนาประเทศ
พลอากาศเอก อลงกรณ์ กล่าวว่า เครื่องบิน Peacemakerเป็นเครื่องบินที่สามารถยืดอายุการใช้งานได้ ไม่เหมือนเครื่องบินขับไล่ F-5 หรือ F16 ที่หากโครงสร้างครบอายุการใช้งานแล้ว ต้องปลดประ จำการ และไม่เหมือนเครื่องบิน C-47 Dakota หรือ BT-67 ซึ่งโครง สร้างจะไม่มีผลกระทบกับแรง G ที่มาก ก็สามารถยืดอายุการใช้งานได้ สำหรับเครื่องบิน Peacemaker เมื่ออายุครบ 50 ปี จึงได้นำมาปรับปรุงโครงสร้าง ปรับปรุงระบบภายใน จากหน้าจอแบบเข็ม หรือ ระบะบอนาล็อค มาเป็นระบบดิจิทัล ให้มีความทันสมัยเพิ่มความมั่นใจ ความปลอดภัย ในการบินของนักบินมากยิ่งขึ้น และใช้หลากหลายภารกิจมาก เช่น ลาดตระเวนทางอากาศ ปฏิบัติการฝนหลวง การกระจายเสียงแจ้งข่าวยังประชาชน โดยวางแผนประเมินการใช้งานทุกๆ 5 ปี อย่างน้อย 15 ปี ที่สามารถใช้งานต่อไปได้ เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเรานำทรัพยากรที่มีอยู่มาปรับปรุงเพื่อยืดอายุการใช้งาน แทนการซื้อใหม่อย่างเดียว
“สำหรับเครื่องบิน Peacemaker บรรจุเข้าประจำการในกองทัพอากาศไทย เมื่อวีนที่ 14 พ.ย. 2515 โดยความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐอเมริกา ในช่วงสงครามเวียดนาม จำนวน 33 เครื่อง ปัจจุบันเหลือเพียง 12 เครื่อง มีปรับปรุงแล้ว 8 เครื่อง เหลืออีก 4 เครื่องอยู่ระหว่างดำเนินการ จะแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2566 ปัจจุบันยังมีคุณค่าการใช้งานทางธุรการอยู่ และ กองทัพอากาศไทยเป็นหน่วยเดียวที่ยังใช้งานเครื่องบินนี้อยู่อย่างคุ้มค่า หรือเรียกว่า ฝูงเดียวในโลกทางทหารที่เหลืออยู่”.
Discussion about this post