วันที่ 1 ธ.ค.65 ที่สวนพุทราบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ นายนิพนธ์ อิงภู นายกเทศมนตรีตำบลโพน พร้อมสื่อมวลชน “มุดมุ้ง” เข้าติดตามการเจริญเติบโตของผลพุทราสายพันธุ์ “พุทรานมบ้านโพน” ที่กำลังได้อายุเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาดเต็มที่ช่วงกลางเดือนธันวาคมเป็นต้นไป
ขณะที่บริเวณท้องทุ่งสองฝั่งถนนสายบ้านโพน-คำม่วง-สามชัย จะพบว่าขาวละลานตาด้วยสวนพุทรา ที่เกษตรกรได้ “กางมุ้ง” เพื่อป้องกันเพลี้ย และแมลงรบ กวน รวมทั้งเป็นการควบคุมอุณ
หภูมิ เพื่อรักษาคุณภาพรสชาติพุทราหวานอีกด้วย และนอกจากนี้ที่ริมถนนเยื้องศูนย์ศิลปวัฒน ธรรมผู้ไทยบ้านโพน ยังมีบรรดาพ่อค้า แม่ค้า หลายรายตั้งแผงเพื่อเป็นจุดจำหน่ายพุทรา ซึ่งบรรยา กาศเริ่มคึกคัก เงินสะพัดวันละหลายหมื่นบาท
นายนิพนธ์ อิงภู นายกเทศมนตรีตำบลโพน กล่าวว่าพุทราหวานบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคมานานกว่า 30 ปี โดยมีการพัฒนาสายพันธุ์และรูปแบบการเพาะปลูก การดูแล เช่น กางมุ้ง ผสมน้ำกับนมหมักรดต้นพุทรา จึงเป็นที่มาของพุทราสายพันธุ์นมสด ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่ว่า “พุทรานมบ้านโพน” อีกหนึ่งอัตลักษณ์ของบ้านโพนควบคู่กับไหมแพรวาบ้านโพน สร้างรายได้มวลรวมให้เกษตรไม่ต่ำกว่าปีละ 100 ล้านบาท ทั้งนี้ มีการรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ ในรูปแบบสหกรณ์ ชื่อกลุ่มแปลงใหญ่พุทรานมบ้านโพนสหกรณ์การเกษตรคำม่วง จำกัด เพื่อมีอำนาจต่อรองราคา และเป็นหลักประกันที่มั่นคง คุณภาพปลอดภัย ตลาดกว้างไกล ปัจจุบันมีสมาชิก 403 ราย พื้นที่เพาะปลูก 1,832 ไร่ ผลผลิตปี 2565 เฉลี่ย 3-5 ตันต่อไร่ หักค่าใช้จ่ายเหลือประมาณ 6 หมื่นบาทต่อไร่ มูลค่ารวมเฉลี่ยปีละกว่า 100 ล้านบาท
ด้านนางยัน พันธะลี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 4 บ้านโพน เกษตรกรและแม่ค้าจำหน่ายพุทรา กล่าวว่า พุทราหวานบ้านโพนผลผลิตประจำปี 2565-66 เริ่มออกสู่ตลาดแล้ว โดยพุทราที่เกษตรกรชาวบ้านโพนปลูกมี 3 สายพันธุ์ คือ พันธุ์พุทรานมบ้านโพน พันธุ์สายน้ำผึ้ง และพันธุ์สามรส ที่เห็นนำมาจำหน่ายในช่วงนี้ถือเป็นพุทราผลหัวปี ที่เริ่มได้ขนาดเก็บมาจำหน่าย ส่วนผลผลิตพุทราที่จะออกสู่ตลาดจำนวนมาก จะเริ่มประมาณกลางเดือนธันวาคมเป็นต้นไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ทั้งนี้ ครอบครัวตนปลูกพุทราหวาน 3 ไร่ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง กิโลกรัมละ 40 บาท ต้นทุนปีนี้ค่อนข้างสูงเฉลี่ยไร่ละ 6 หมื่นบาท เนื่องจากปุ๋ยแพง แต่ก็คาดหวังว่าปีนี้จะได้ผลผลิตสูง และขายได้กำไรไม่น้อยกว่า 1 แสนบาท
ขณะที่นางบังอร มะลามุล อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 2 บ้านโป่งเปลือย อ.เมือง จ.บึงกาฬ กล่าวว่า ในช่วงพุทราหวานบ้านโพนออกสู่ตลาด ตนก็จะมาซื้อไปรับประทานและเป็นของฝากญาติพี่น้อง ส่วนตัวรู้สึกชื่นชอบรสชาติพุทราหวานบ้านโพนทุกสายพันธุ์ เพราะให้รสชาติที่หวานฉ่ำ หอม กรอบ อร่อยและราคาไม่แพง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 27-29 มกราคม 2566 เทศบาลตำบลโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ จะได้ร่วมกับทุกภาคส่วนจัดงาน “มหัศ จรรย์ถิ่นผู้ไท ราชินีไหมแพรวา พุทราหวานของดีกาฬสินธุ์” ซึ่งถือเป็นงานประจำปีระดับจังหวัด เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมแพรวา และเปิดตลาดพุทราหวานบ้านโพน จึงขอเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว มาร่วม “มุดมุ้ง บายนม ชมสวน” ร่วมกัน.
Discussion about this post