เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 ที่ห้องประชุมเสี้ยวดอกขาว ชั้น 5 อาคารสิริเวชรักษ์ โรงพยาบาลน่าน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยโรงพยาบาลน่าน เตรียมความพร้อม เจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพกู้ภัย รับเหตุอุบัติภัยหมู่ สถานการณ์สาธารณภัย ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวจังหวัดน่าน ขั้นตอนการแจ้งเหตุผ่านหมายเลข 1669 ในวันพุธ ที่ 14 ธ.ค.เวลา 13.00 น. บริเวณถนนสายน่าน – ท่าวังผา หน้าโรงแรมน่านตรึงใจ
นายแพทย์วสันต์ แก้ววี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน มอบหมายให้ นายแพทย์รณชัย แก้วผดุง นายแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลน่าน งานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ประชุมซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ พร้อมรับสถานการณ์สาธารณภัย ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวจังหวัดน่าน ขั้นตอนการแจ้งเหตุผ่านหมายเลข 1669 ทบทวนแผนอุบัติภัยหมู่ (TTX) เน้นจุดคัดแยก และการลำเลียงผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล โดยมีศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดน่าน 1669 เป็นศูนย์หลักในการแจ้งเหตุ พร้อมกลุ่มไลน์ วิทยุสื่อสาร โทรศัพท์ รองรับการสื่อสารและประสานงานระหว่างเกิดเหตุโดยมีเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่เกี่ยวข้องโรงพยาบาลน่าน นายถนัด ใบยา หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาคุณภาพและรูปแบบบริการ สสจ.น่าน เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน เทศบาลเมืองน่าน ขนส่งจังหวัดน่าน สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดน่าน.ทหาร มทบ.38 ตำรวจ สภ.เมืองน่าน ทีมกู้ชีพกู้ภัย อำเภอเมือง อำเภอเวียงสา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังและเสนอข้อคิดเห็นกำหนดการซ้อมแผนเหตุอุบัติภัยหมู่ ในวันพุธ ที่ 14 ธ.ค.เวลา 13.00 น. บริเวณถนนสายน่าน – ท่าวังผา หน้าโรงแรมน่านตรึงใจ มีผู้เข้าร่วม 50 คน มีกำหนดซ้อมแผนจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงแบบบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมรับสาธารณภัยต่างๆ ตลอดถึงการซักซ้อมความเข้าใจในการใช้แผนอุบัติเหตุหมู่ การช่วยเหลือผู้ประสบ อุบัติเหตุอย่างถูกวิธี ที่จะบรรเทาอาการบาดเจ็บในเบื้องต้นของผู้ประสบเหตุได้ ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ในระดับหนึ่ง ณ จุดเกิดเหตุบริเวณพื้นที่ตำบลผาสิงห์ ถนนน่าน-ท่าวังผา ขาเข้า หน้าโรงน่านตรึงใจ
ขั้นตอนที่ 1 ให้เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินของรถคันที่ประสบเหตุ นำกิ่งไม้มาวาง โบกธง หรือทำสัญลักษณ์อื่นๆ เพื่อเตือนให้รถคันอื่นทราบว่าเกิดอุบัติเหตุ พร้อมโทรแจ้งตำรวจและเรียกรถพยาบาลให้จัดส่งทีมแพทย์ฉุกเฉินที่มีทักษะในการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ จุดเกิดเหตุอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
ขั้นตอนที่ 2 ประเมินอาการผู้ประสบเหตุว่าได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากน้อยเพียงใด ซึ่งผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือต้องปฐมพยาบาลผู้ประสบเหตุที่หมดสติ โดยเฉพาะผู้ที่หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้นและเสียเลือดมากเป็นลำดับแรก
ขั้นตอนที่ 3 หลังจากปฐมพยาบาลในเบื้องต้นแล้ว ให้รีบนำผู้ประสบเหตุส่งสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด พร้อมแจ้งรายละเอียด ลักษณะอาการและการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่ทราบ จะได้ทำการรักษาได้อย่างถูกต้องในระยะต่อไปข้อควรระวังเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ดังนี้ หากไม่มีความรู้เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ประสบเหตุด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้พิการหรือเสียชีวิตได้
กรณีอุบัติเหตุเสาไฟฟ้าล้ม มีสายไฟฟ้าพาดอยู่ใกล้จุดที่ประสบเหตุ ไม่ควรเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว เพราะอาจถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิตได้ หากมีน้ำมันรั่วไหลหรือได้กลิ่นก๊าซ ให้รีบดับเครื่องยนต์และออกห่างจากจุดที่เกิดเหตุในระยะไม่ต่ำกว่า 10 เมตร เพื่อป้องกันอันตรายจากเพลิงไหม้
Discussion about this post