เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 15 ธ.ค. 65 ร.ต.ท.อภิรัฐ วรรณา รอง สว.(สอบสวน) สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 3/40 ซอยคลองสี่ตะวันออก33 ม.6 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รอง.ผกก.สอบสวนฯ พ.ต.ท.อพิสิฐ เกิดสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.ฯ พ.ต.ต.วีระ สุขชนะ สว.สส.ฯ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (ศพฐ.1 ปทุมธานี)และ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว ทราบชื่อ นายสุพจน์ เอื่ยมปิ่น อายุ 69 ปี ถูกด้ามปืนตีศรีษะแตก และนายเอกรงค์ โรจนวิชัย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/59 ม.6 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี (มือปืน)ซึ่ง บ้านอยู่ติดกันได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยอาวุธปืน ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก นอกจากนี้ยังพบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ทราบชื่อ นายดำรงค์ ศิริพฤกษ์ อายุ 72 มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณชายโครงขวา 1 นัด หน้าผากซ้าย 1 นัด นอนหงายจมกองเลือด ในสภาพสวมเสื้อยืดคอปกสีฟ้า นุ่งกางเกงขาสั้น หลังชันสูตรเบื้องต้นแล้ว ได้มอบศพให้มูลนิธิฯ นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบถาม นางสมพร ศิริพฤกษ์ อายุ 71 ปี ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า ขณะที่ตนนั่งทำงานอยู่ในบ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนดัง2-3นัด จากนั้นก็เห็นคนก่อเหตุวิ่งไล่สามีตนเข้ามาแล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีก 2 นัด จากนั้นก็มีนายสุพจน์ฯ หลานชาย ซึ่งบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับบ้านตนวิ่งตามมาพร้อมญาติๆกับเพื่อนบ้านและช่วยกันจับมือปืนไว้ได้
ทางด้านนายสุพจน์ฯ หลานชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุตนอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงมือปืนตะโกนด่าเอะอะโวยวายกับนายดำรงค์ฯ ซึ่งเป็นอาของตน สักพักตนจึงเดินออกมาดู ก็เห็นทั้งคู่เริ่มทะเลาะกันรุนแรงขึ้น สาเหตุเกี่ยวกับเรื่องรั้วบ้านกับต้นไม้ที่มือปืนอ้างว่าบ้านของอาตนรุกล้ำมาในที่ดินบ้านมือปืน สักพักตนก็เห็นนายเอกณรงค์ฯ ถือปืนออกมาพร้อมกับมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ต่อจากนั้นมือปืนก็ออกมาจากบ้านแล้ววิ่งไล่เข้าไปในบ้านของอาตน จากนั้นก็ยิงอาตนจนล้มจมกองเลือดใกล้ชายคาหน้าบ้าน ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยและก็ถูกนายเอกณรงค์ฯ ใช้ด้ามปืนตีหัวจนแตกเลือดอาบ ก่อนที่จะมีญาติๆและเพื่อนบ้านได้เข้ามาช่วยกันจับกุมตัวคนก่อเหตุไว้ได้
ด้าน นายเอกรงค์ฯ ผู้ก่อเหตุ กล่าวเปิดเผยโดยอ้างว่า บ้านตนมีเรื่องกันกับบ้านผู้เสียชีวิตเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน เนื่องจากรั้วบ้านรุกล้ำและต้นไม้ของคนตายเอนเข้ามาในเนื้อที่บ้านของตน โดยเรื่องนี้มีปัญหามานานเป็น 10 ปีแล้ว แต่ก็ไม่ยอมแก้ไขให้และก็มีปากเสียงกันมาโดยตลอด จนก่อนเกิดเหตุ ตนได้มีเรื่องถกเถียงกันกับนายดำรงค์ฯ ผู้ตาย ต่อมาก็มีนายสุพจน์ฯ มีร่วมต่อว่า ตนจึงเข้าบ้านไปเอาปืนของพ่อที่เป็นอดีตทหารเก่า ออกมายิงขึ้นฟ้าแต่ทั้งอาหลานก็ไม่หยุดตะโกนด่า ตนจึงวิ่งเข้าไปไล่ยิงนายดำรงค์ฯ ก่อนจะถูกนายสุพจน์ฯและชาวบ้านช่วยกันจับตัวไว้ดังกล่าว
น.ส.ปางทิพย์ เอี่ยมปิ่น อายุ 56 ปี น้องสาวนายสุพจน์ฯ คนเจ็บ กล่าวว่า ตนเห็นมือปืนมีปากเสียงกับพี่ชายตนเสียงดังมาก ตนจึงเดินมาเรียกพี่ชายให้เข้าบ้าน ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนตนจึงพาหลานวิ่งหลบเข้าบ้าน ส่วนพี่ชายตนก็วิ่งเข้าไปในบ้านของอา แล้วก็มารู้อีกทีว่าอาโดนยิงเสียชีวิต ส่วนพี่ชายได้รับบาดเจ็บหัว ส่วนเรื่องที่มีปากเสียงกันก็เป็นเรื่องที่ดินของอากับที่มือปืนติดกัน โดยมีการกล่าวหาว่าบ้านของอามีการสร้างรั้วรุกล้ำเข้าไปบ้านมือปืน จนมีเรื่องบาดหมางกันมาหลายปีแล้ว
ส่วนทางด้านแม่ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า บ้านตนมีปัญหาเรื่องหลักเขตที่ดิน โดยการสร้างรั้วล้ำเกินมาในเนื้อที่บ้านป้าเป็นซอก แล้วมีรั้วเอนเข้ามาในที่ของป้าอีก พอป้าไปบอกบ้านคนตาย เขาก็บอกว่าจะรื้อให้แต่ก็ไม่รื้อสักที และปัญหานี้มีมานับ 10 ปีแล้ว ตัวป้าก็ไม่อยากมีปัญหาอะไร และบอกกับลูกชายเสมอว่าช่างเขา จนก่อนเกิดเหตุป้าไม่รู้ว่าลูกชายทะเลาะอะไรกันกับคนตาย พอออกมาอีกทีก็รู้ว่ายิงกันแล้ว
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / รายงาน
Discussion about this post