สตูล เร่งเจรจาหาข้อยุติ หลังประ มงปั่นหมึก ปลากะตัก 30 ลำ ประ ท้วงปัญหาปากท้องจากกำ หนดแนวเขตที่อ้างโดยไม่ชอบธรรม

สืบเนื่องจากวานนี้ (21 ธ.ค.65) ที่กลุ่มประมงพื้นบ้านที่ใช้เครื่องมือประมงพาณิชย์ (ปั่นหมึก ปลากะตัก อวนลาก) และกลุ่มประมงพาณิชน์ขนาดเล็ก รวมตัวกันเรียกร้องโดยยื่นหนังสือผ่านสมาคมประมงจังหวัดสตูลให้ประสาน หลังไม่ได้รับความชอบธรรมจากการประกาศเขตน่านน้ำทำกิน จากกฎกระทรวงกำหนดแนวเขตฉบับใหม่ที่ออกมาวันที่ 7 ธันวาคม 2565 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้สร้างความเดือดร้อนทำให้ไม่สามารถทำกินได้นั้น แม้ทางจัง หวัดจะแบ่งรับแบ่งสู้โดยระบุว่าเรื่องได้ผ่านประกาศเป็นกฎหมายบังคับแล้วไม่สามารถละเว้นได้ แต่จะพยายามให้มีการอะลุ่ม อล่วยในห้วงนี้ไปก่อนสักระยะหนึ่ง โดยทางจังหวัดได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ สร้างความไม่สบายใจให้กับชาวประมงที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว

โดยล่าสุดวันนี้ ..(22 ธ.ค.2565) ที่บริเวณคลองปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ชาวประมงพื้นบ้านที่ใช้เครื่องมือปั่นหมึก อวนลาก ปลากะตัก ร่วม 30 ลำ พยายามนำเรือไปลอยลำขวางร่องน้ำเดินเรือ เพื่อเรียกร้องให้ชะลอการประกาศกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว และให้มีการทำประชาพิจารณาใหม่นั้น

ทางด้านนายธานี หะยีมะสาและ นายอำเภอละงู พร้อมหัวหน้าสำนักงานจังหวัด ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพยายามเข้าเจรจาหารือ เพื่อไม่ให้มีการปิดกั้นเส้นทาง เพราะจะสร้างความเดือดร้อนทั้งการเดินเรือ และท่องเที่ยว โดยรับข้อเสนอและขอให้รอหลังทางสมาคมประมงจังหวัดสตูลจะนำเรื่องยื่นศาลปกครองในการคุ้ม ครองทำประมงไปพลางก่อน และมีการส่งหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการทำประชาพิจารณ์ใหม่ตามข้อเรียกร้อง ซึ่งสร้างความพอใจและยอมสลายและเปิดการเดินเรือให้กลับมาเป็นปกติกลุ่มชาวประมงที่ได้รับความเดือดร้อนตามที่กรมประมงได้ออกกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่งในบริเวณจังหวัดสตูลพุทธศักราช 2565 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งประกาศฉบับนี้ไม่ได้นำความคิดเห็นของชาวประมงและผู้ที่เข้าร่วมประชุมรับความคิดเห็น ตามที่สำนักงานประมงจังหวัดสตูลได้เชิญประชุมทั้ง 3 รอบนั้นชาวประมงโดยเฉพาะเรือพื้นบ้านและเรือประมงขนาดเล็กที่ทำการประมงชายฝั่งไม่สามารถออกทำการประมงน้ำลึก จากเดิมที่ทำประมงห่างจากฝั่ง 3 ไมล์ทะเล ฉบับใหม่ให้ห่างถึง 10 ไมล์ทะเลนั้น ในพื้นที่จังหวัดสตูลได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากและสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายซึ่งโทษและค่าปรับที่รุนแรงเนื่องจากพื้นที่ทำการประมงทะเลชายฝั่งจังหวัดสตูลเป็นพื้นที่เขตอุทยานเกือบทั้งหมด.

สโรชา ยกชม/สตูล