เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 65 ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ประจำปี 2565 ซึ่งตรงกับวันที่ 26 ธันวาคม ของทุกปี ณ วัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน) อำเภอเมือง จ.เพชรบุรี สถานที่จัดงาน “มหกรรม ทส. พบประชาชน” ครั้งที่ 4 : ทรัพยากรสร้างมูลค่า พัฒนาคุณภาพชีวิต ปลุกจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ มี นางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นางภูสิน เกตานนท์ ผู้ตรวจราช การกรมอุทยานแห่งชาติฯ นาง สาวสมหญิง ทัฬหิกรณ์ ผู้เชี่ยว ชาญด้านสัตว์ป่า นายประเสริฐ สอนสถาพรกุล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ หมอล็อต ผู้อำนวยการส่วนจัดการสุขภาพสัตว์ป่า หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.อส.), เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.), เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.), ผู้แทนภาครัฐ, ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน เข้าร่วมในกิจกรรม
ดร.ยุทธพล กล่าวว่า การที่เราจะดูว่าประเทศไทยของเรานั้น มีทรัพ ยากรธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์หรือไม่อย่างไรนั้น สัตว์ป่าเป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่จะสามารถบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรในแต่ละพื้นที่ ทั้งชนิด จำนวน และความหลากหลายของชนิดพันธุ์ การอนุรักษ์และคุ้ม ครองสัตว์ป่าจึงช่วยค้ำจุนให้ทรัพยากรป่าไม้มีความอุดมสมบูรณ์ การบุกรุกพื้นที่ป่าและทำให้ป่าเสื่อมโทรมย่อมส่งผลให้ถิ่นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสัตว์ป่าถูกทำลาย อีกทั้งยังมีการล่าสัตว์ป่าเพื่อนำไปบริโภคและค้าขายชิ้นส่วนของสัตว์ป่าที่ส่งผลให้สัตว์ป่าบางชนิดสูญพันธุ์ และอีกหลายชนิดตกอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์ แม้ว่าประเทศไทยมีพระราชบัญญัติสงวนและคุ้ม ครองสัตว์ป่ามาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 โดยมีการปรับปรุงใน พ.ศ.2535 และ พ.ศ.2562 ซึ่งเปิดโอกาสให้เอกชนสามารถเพาะพันธุ์สัตว์ป่าบางประเภทได้ รวมถึงได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆในธรรมชาติ โดยเฉพาะชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์หรือถูกคุกคาม โดยการสร้างเครือข่ายทั่วไปในการควบคุมการค้าระหว่างประเทศทั้งสัตว์ป่าและพืชป่าที่มีชีวิต ซาก และผลิตภัณฑ์
“ปัจจุบันสัตว์ป่าบางชนิดยังคงถูกคุกคาม ไล่ล่า และลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนต้องมีการประกาศให้เป็นสัตว์ป่าสงวน ซึ่งประเทศไทยมีสัตว์ป่าสงวนตามกฎหมาย รวม 20 ชนิด ได้แก่ เก้งหม้อ เลียงผา แมวลายหินอ่อน แรดชวา กระซู่ กูปรี กวางผา ควายป่า นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร นกแต้วแล้วท้องดำ นกกระเรียน พะยูน ละองละมั่ง สมเสร็จ สมัน เต่ามะเฟือง วาฬโอมูระ วาฬบรูด้า ปลาฉลามวาฬ และ นกชนหิน ซึ่งเป็นชนิดล่าสุดที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าไปเมื่อเดือนมีนาคม 64 และท้ายนี้ในนามของกระทรวงทรัพ ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ให้เห็นคุณค่าและความสำคัญต่อการอนุรักษ์ทรัพ ยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ซึ่งการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป ลำพังเพียงเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติฯ อาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกับองค์กรอื่น ภาคเอกชน และประ ชาชน ‘หยุดล่า หยุดฆ่า หยุดค้า หยุดกิน และหยุดเลี้ยงสัตว์ป่า’ เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ มีความอุดมสมบูรณ์สืบต่อไป” ดร.ยุทธพล กล่าว.
พร้อมกันนี้ ดร.ยุทธพลได้รับเรื่องร้องเรียนปัญหาลิงแสมที่ลงมาสร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนนักท่องเที่ยว และเจ้า ของอาคารพาณิชย์ที่ประกอบการค้าบริเวณเชิงเขาวัง ซึ่งเรื่องนี้ ดร.ยุทธพล ชี้แจงว่าขณะนี้ได้ดำเนินการทำหมันลิงเพิ่มอีก 200 ตัวช่วยบรรเทาความเดือดร้อนมาจากลิงในพื้นที่ ทำการสำรวจประชากรลิง ตรวจสุขภาพ และเฝ้าระวังโรค พร้อมขอความร่วมมือประชาชนนักท่องเที่ยวไม่ควรให้อาหารลิงเรี่ยราด ควรให้ในจุดที่ทางเจ้าหน้าที่ได้กำหนดไว้เพื่อป้องกันปัญหาลิงลงมารบกวน.
Discussion about this post