เศร้า !! สาว ตร.ทางหลวงระยอง เครียดปัญหาการเงิน กระโดดทะเล ยุติปัญหาชีวิตริมหาดดัง !!

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 6 ม.ค. 66 พ.ต.ท.อุดม โกยเก็บ สว.(สอบสวน)สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งพบศพผู้หญิงนอนเกยชายหาดแม่รำพึง บริเวณ ลานหินขาวหินดำ ม.5 ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูร ผกก สภ.เมือง ระยอง แพทย์เวร รพ.ระยอง และ หน่วนกู้ภัยสว่างพรกุศล เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ พบชาวบ้านแบะนักท่องเที่ยว ยืนมุงกันอยู่ริมชายหาด เข้าไปตรวจสอบพบ เป็นศพผู้หญิงผมยาวใส่เสื้อแขนสั้นลายดำขาว กางเกงขายาวสีขาว นอนคว่ำหน้าอยู่บนหาดทราย ตรวจสอบสภาพศพ พบมีรอยสักอยู่บนแผ่นหลัง เป็นรูปดอกไม้ และ อักษรภาษาอังกฤษ ไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย ภายในตัวไม่พบหลักฐานว่าเป็นใครมาจากไหน ก่อนจะส่งศพชันสูตร ที่ รพ. ระยอง

จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าริมหาด ให้การว่า ก่อนพบศพประ มาณ 2 ชั่วโมง เห็นศพลอยอยู่ในทะเล ในตอนแรกมองเห็นคล้ายกับโฟมและถุงพลาสติกจึงไม่ได้สนใจ โดยลอยมาทางสะพานกรมประมง จนกระทั่งมาพบเป็นศพ

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า พบรถยนต์ของผู้เสียชีวิต จอดอยู่ริมถนนเลียบชายหาดตรง สะพานกรมประมง ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 1 กิโลเมตร จึงไปตรวจสอบ ซึ่งเป็นรถเก๋ง สีขาว ยี่ห้อนิสสันมาร์ช ไม่ได้ล็อกประตูรถ ตรวจสอบภายในรถ พบ โทรศัพท์มือ จำนวน 3 เครื่อง เงินสดจำนวนหนึ่ง และเอกสารหลักฐาน ของผู้เสียชีวิต ชื่อ น.ส.เฌออัณณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ทำงานตำ แหน่งธุรการ สถานีตำรวจทาง หลวงระยอง ถ.สุขุมวิท ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง

ด้านชาวบ้านริมหาด ได้เห็นผู้เสียชีวิตมาจอดรถ แบ้วก็ลงรถเดินขึ้นไปบนสะพานกรมประมงที่ยื่นยาวไปในทะเล โดยไม่ได้สนใจคิดว่าออกไปชมวิว โดยไม่เห็นขณะกรพโดดลงทะเล จนกระทั่งมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปทาง สถานีตำรวจทางหลวง จ.ระยอง เมื่อสอบถามชื่อผู้เสียชีวิต พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการของ สถานีตำรวจทางหลวงระยองจริง ก่อนจะประสานญาติให้ทราบเรื่อง

จากการสอบถามเพื่อนร่วมงาน ทราบว่าผู้เสียชีวิต มีอาชีพเสริมคือการปล่อยเงินกู้ แต่ประสบปัญหาเก็บเงินไม่ได้ จึงเครียดไม่มีเงินคืนเจ้าของเงินที่กู้ยืมมาปล่อยเงินกู้ จึงอาจเป็นสาเหตุของการคิดสั้นในครั้งนี้ก็เป็นได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สรุปตากพยานหลักฐานว่าเป็นการเสียชีวิต จากการกระโดดทะเลเสียชีวิตด้วยตนเอง ส่วนสาเหตุของการคิดสั้น ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตต้องรอการสอบสวนญาติและเพื่อนร่วมงานก่อนจึงจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.