วันที่ 13 มกราคม 2566 ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ รายงานสภาพอากาศว่า อากาศหนาวถึงหนาวจัด มีหมอกตอนเช้ากับน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิยอดดอยและเทือกเขา 4-12 องศา ภาคเหนือตอนบน ต่ำสุด 11-16 องศา สูงสุด 30-33 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 10-15กิโลเมตร/ชั่วโมง อุณหภูมิต่ำสุด ที่ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง
วัดได้ 4.5 องศา สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
อ.ฝาง 6.0 องศา พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
อ.เมือง 9.2 องศา ตามลำดับ
นายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรีตำบล
ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เผยว่า พื้นที่บางส่วนติดกับอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุยส่งผลให้มีอุณหภูมิลดต่ำลงติดต่อกันหลายวัน ต่ำสุดวัดได้ 12 องศา แต่ยังไม่เข้าเกณฑ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว เนื่องจากอุหภูมิต้องต่ำกว่า 8 องศา ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วันแต่ได้รับร่วมภาคเอกชน และเครือข่ายชุมชน
นำเครี่องกันหนาว อาทิ ผ้าห่ม เสื้อกัหนาวไปแจกจ่ายให้ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสบางส่วนแล้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยหนาวเบื้องต้น
“ปีนี้ภัยหนาว ส่งผลให้เกืดความแห้งแล้งนานขึ้น อาจเกิดไฟป่าหมอกควัน ฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นบริเวณกว้าง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและท่องเที่ยวโดยตรง จึงขอความร่วมมือชุมชน ห้ามเผาด็ดขาด จัดเก็บกิ่งใบและวัชพืชทุกสัปดาห์ เพื่อทำปุ๋ยหมัก พร้อมปลูกต้นไม้ ทำแนวกันไฟ และฝายชะลอน้ำสร้างความชุ่มชื้นมีแผนขุดลอกลำห้วย ลำเหมือง และคลองที่มีตะกอนทับถม ซึ่งคลองระบายน้ำบางสายต้องขุดลอก ปีละ 2 ครั่ง เพื่อรองรับฤดูน้ำหลาก ระบายน้ำท่วงขังชุมชนด้วย” นายคเชน กล่าว
นอกจากนี้ร่วมกับฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รพ.สต.บ้านเจ็ดยอด อสม. 10 ชุมชนเพื่อเฝ้าระวังและแจ้งเตือน PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานแก่ประชาชน เพื่อดูแลรักษาสุขภาพ พร้อมออกหน่วยเคลื่อนที่ตรวจสุขภาพทุชุมชน เนื่องจากเชียงใหม่ เป็นแอ่งกระทะ ซึ่งมีบางตำบล อ.สารภี พบผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง มากที่สุดในประเทศ
////////
Discussion about this post