

เมื่อเวลา 09.20นวันที่ 17 มค.66 พ.ต.ท.ธราเทพ จันทร์ดิษฐ์ สว.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันเตา ชื่อเรือสมุธซี ขนาด 2.996 ตันกรอสมีน้ำพมันเตา ค้างอยู่ในท้องเรือ และน้ำมันดีเซล ประมาณ 20,000 ลิตร ขณะจอดซ่อมเรืออยู่ริมฝางแม่น้ำแม่กลอง หน้าบริษัทรวมมิตรล๊อคยาร์ค จำกัด บริเวณ หมู่ 8 ต.แหลมใหญ่ อยู่เมืองสมุทรสงคราม
เสียงระเบิดดังสนั่น 2 ครั้งติดต่อกัน แรงสั่นสะเทือนดังไกลไปถึง เขต อ.บางคนที ทำให้กระจกบ้านเรือนบริเวณนั้นแตกกระจาย แรงระเบิดทำให้ปล่องเรือกระเด็นขึ้นฝั่ง ขาดเป็น2 พนักงานนั่งทำงานหน้าอู่ซ่อมเรือวิ่งหนีตายกันจ้าระหวั่น เสียงระเบิดดังเป็นระยะๆ ทำให้หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรม และเจ้าหน้าดับเพลิงเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ต้องทอยออกมาให้พ้นระยะ ในเบื้องต้น พบศพเป็นขายสภาพศพขาดครึ่งท่อน เหลือแต่ท่อนบน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภ รายนำส่ง รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหกล้า
นายสมนึก พรหมเขียว ผวจ.สมุทรสงคราม รุดไปที่เกิดเหตุพร้อมสั่งการให้ฝ่ายบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดตั้งกองอำนวยการชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ปะสบภัยขณะรายงานข่าวนี้เสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะทำให้บ้านสั่นสะเทือนในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานเรือจอดซ่อม มีการใช้เครื่องอ๊อกเหล็ก เกิดประกายไฟหล่นลงไปทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้เกิดแรงอัดระเบิดขึ้นทั่วเมือง
เรือสมุธซี 22 หมายเลขทะเบียน20000791 กว้าง 18 เมตร ยาว 113 เมตร ความลึก 9 เมตร เจ้าของเรือ สมุธซี จำกัด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ระดมกำลังหน่วยกู้ภัยมาช่วยกันหลายจังหวัด และบริษัทเอกชนนำโฟม มาช่วยกันดับไฟบนเรือ ถึงเวลา 15.30 เพลิงจึงสงบ หน่วยกู้ภัยสำรวจในเรือพบศพในบริเวณท้องเรือ 1 ศพ พบขาด้านขวากระเด็นตกอยู่หัวเรือ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ชาวพม่า 3 ราย และ ต้นหนเรือสมุธซี นายสมพงษ์ ใจวิถี อายุ 35 ปี มีผู้สูญหาย 5 รายเป็นชาวพม่า
เวลา 16.30น.ที่หน้า อบต.แหลมใหญ่ ตั้งเป็นศูนย์อำนวยการร่วมนายสมนึก พรหมเขียว ผวจ.สมุทรสงคราม แถลงข่าวเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันเตามีน้ำมันเตากับน้ำมันดัเซล ค้างในท้องเรือประมาณ สมุธซี จอดซ่อมบำรุงเกิดระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวืต 2 รายรอพิสูจน์อัตลักษณ์ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค 3 สมุทรสงคราม สั่งระงับใช้อูซ่อมเรือบริษัทรวมมิตรล๊อคยาร์ค จำกัด
Discussion about this post