นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เปิดผยว่า ในช่วงฤดูแล้งระหว่างเดือนมกราคม-เมษายนของทุกปี พื้นที่ จังหวัดแพร่มักประสบปัญหาฝุ่นละอองจากไฟป่าและการเผาในที่โล่ง ซึ่งมีสาเหตุจากการเผาพื้นที่ป่า การเผาพื้นที่การเกษตร การเผาวัชพืชริมทาง และการเผาขยะมูลฝอยในชุมชน ประกอบกับลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดแพร่ เป็นแอ่งกระทะ มีสภาวะอากาศที่แห้งแล้งและนิ่ง ความกดอากาศสูงแผ่เข้ามาปกคลุมทำให้ฝุ่นละอองแขวนลอยอยู่ในบรรยากาศ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม และเป็นอันตรายต่อสุขภาพความเป็นอยู่ของประชาชน เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ต่อทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าเป็นจำนวนมาก รวมถึงอาจเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในเส้นทางต่าง ๆ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจากไฟป่าและการเผาในที่ โล่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 มาตรา 15 และมาตรา 29
จังหวัดแพร่จึงกำหนดให้วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2566 เป็นช่วง “วิกฤติหมอกควัน”และกำหนดให้ทุกพื้นที่ทุกหมู่บ้านในท้องที่จังหวัดแพร่ เป็น “เขตควบคุมไฟป่าและการเผาในที่โล่ง” ดังนั้น จึงขอให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดแพร่ ปฏิบัติดังนี้ 1. ห้ามเผาเด็ดขาดในทุกพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ป่า พื้นที่กษตรกรรม พื้นที่ริมทางหลวงพื้นที่ชุมชนและเมือง ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงด้วยวิธีการเผาในช่วงก่อนและหลังประกาศช่วงวิกฤติหมอกควัน ให้แจ้งขออนุญาตจากกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองท้องที่นั้น เพื่อประสานหน่วยงานรับผิดชอบพื้นที่ ก่อนเข้าดำเนินการทุกครั้ง รวมทั้งจะต้องทำแนวกันไฟและควบคุมการเผาอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เกิดการลุกลาม ทั้งนี้จังหวัดจะพิจารณาปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพอากาศประกอบในการดำเนินการชะลอ หรือระงับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงด้วยวิธีการเผา 2. ผู้ประกอบกิจการที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ให้งดเว้นการดำเนินงานในช่วงระยะเวลาดังกล่าว หากค่าคุณภาพอากาศของจังหวัดแพร่ เกินค่ามาตรฐานที่ 90ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 3. ข้าราชการในพื้นที่ ทุกคน ทุกสังกัด นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน คณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการชุมชนและสมาชิกสภาท้องถิ่น ถือเป็นหน้าที่ในการสอดส่อง ดูแลเอาใจใส่ และร่วมชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้ 4. ผู้ใดฝ่าฝืนจุดไฟเผาป่าหรือเผาในที่โล่งพื้นที่ต่าง ๆ มีความผิดตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ ศ. 2550 ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2499 พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเดิมถึง(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 รวมทั้งเทศบัญญัติ หรือข้อบัญญัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ละแห่งที่ได้กำหนดไว้ โดยมีบทกำหนดโทษตามกฎหมายดังกล่าวกำหนด
จังหวัดแพร่ ขอความร่วมมือผู้พบเห็นการเผาในที่โล่งทุกชนิด ขอให้รีบแจ้งเบาะแสหน่วยงานรับผิดชอบแต่ละพื้นที่ ดังนี้ 1.ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตปาสงวนและเขตป่าไม้ ให้แจ้ง 054 531049 , 054 521568 และ 082- 8873449 2. นอกเหนือเขตพื้นที่ตามข้อ 1. ให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ สายด่วน 191 3. ในเขตเทศบาลเมืองแพร่ ให้แจ้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินเทศบาลเมืองแพร่ หมายเลขโทรศัพท์ 054 531060 4. ในพื้นที่ริมทางหลวง และริมทางหลวงท้องถิ่น ให้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบทางหลวงนั้น โดยแจ้ง สายด่วนทางหลวง 1586 และสายด่วนทางหลวงขนบท 1146
และเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ ชั้น 2 มี นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ประชุมรับมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงาน และหารือข้อราชการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยมี นายปรีชา โตมี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ นายสงคราม ขาวสะอาด ผู้อำนวยการสำนักจัดการป่าไม้ 3 สาขาแพร่ พร้อมหัวหน้า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักจัดการป่าไม้ 3 สาขาแพร่ ที่มีพื้นที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดแพร่ด้วย
Discussion about this post