ระทึก !! รถ 6 ล้อยางระเบิดชนเสาไฟฟ้าแรงสูงถนนมอเตอร์เวย์ เสาหักล้มจนเกิดประกายไฟลุกไหม้วอดทั้งคัน คนขับรอดหวุดหวิด !!

วันที่ 22 มกรา คม 2566) ศูนย์วิทยุแจ้งเหตุกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุก 6 ล้อเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูง ทำให้เกิดไฟลุกลามไหม้ตัวรถ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายเป็นผู้ขับขี่ เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายคู่ขนาน มอเตอร์เวย์ กม. 107+800 ม.4 ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างประทีปศรีรา ชา และ ร.ต.อ.แดนศักดิ์ พูลดี ร้อยเวรสอบสวน สภ.หนองขาม เข้าร่วมตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ และรถดับเพลิงกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชากำลังระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่ไหม้ตัวรถบรรทุก 6 ล้ออยู่อย่างจ้าละหวั่น โดยพบรถบรรทุก 6 ล้อถูกไฟไหม้วอดทั้งคัน พบเสาไฟ ฟ้าแรงสูงหักทับตัวรถบรรทุก 6 ล้ออยู่ โดยไฟได้ลุกไหม้หญ้า บริเวณพื้นที่ข้างถนนลุกลามไปเป็นวงกว้าง จึงต้องเรียกรถดับเพลิงเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์มาเพิ่มอีก 1 คัน โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงจึงควบ คุมเพลิงที่ไหม้ตัวรถและทุ่งหญ้าโดยรอบได้สำเร็จ โดยพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนขับรถ ทราบชื่อคือ นายโสภณ อมรธีรเวช อายุ 34 ปี ได้หนีตายออกมาจากรถ แล้วมีพลเมืองดีเข้าทำการช่วยเหลือแล้ว โดยได้รับบาดเจ็บขาด้านขวามีอาการทางกระดูก (ขาหัก) ฟกช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดการจราจรในเส้นทางดังกล่าวเพื่อให้รถดับเพลิงและรถจากการไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่ทำงานกันได้อย่างสะดวก จนทำให้เกิดการจราจรที่ติดขัดยาวกว่า 1 กิโลเมตร

จากการสอบสวน นายเฉลิมพล แก้วเสียง อายุ 32 ปี ผู้เห็นเหตุ การณ์เปิดเผยว่า ตนเองขับรถตามรถบรรทุกคันเกิดเหตุห่างประมาณ 500 เมตร เห็นรถบรร ทุกคันดังกล่าวอยู่ดีดีก็เสียหลักตกลงข้างทางไปชนกับเสาไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ข้างทางจนหัก ตนเองจึงจอดรถลงช่วยเหลือ แต่ไม่กล้าเข้าไปใกล้เนื่องจากกลัวไฟฟ้าที่หักมาจะรั่วแล้วเกิดอันตรายได้ จึงรอดูห่าง ๆ จนเห็นคนขับรถเปิดประตูออกมาจึงเข้าใจว่าไม่มีไฟ ฟ้า จึงเข้าไปช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากรถแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ส่วนคนขับรถนั้นน่าจะได้รับบาดเจ็บขาหัก โดยคนขับรถบอกตนเองว่ารถบรรทุกยางแตกทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมบัน ทึกภาพ สอบปากคำผู้ที่เห็นเหตุ การณ์ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนกฎหมายต่อไป.