วันที่ 24 ม.ค.66 ที่ด่านพรมแดน อ.เชียงของ จ.เชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงราย นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่กลุ่มแรกที่เดินทางมาโดยรถยนต์ จากประเทศจีน ผ่านแขวงหลวงน้ำทา-แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว แล้วเข้ามาทาง อ.เชียงของ
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ กล่าวว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเอาไว้แล้วก่อนจะทางการจีนจะเปิดประเทศวันที่ 8 ม.ค.2566 ที่ผ่านมาทั้งด้านกำลังพล ความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยทางจังหวัดเชียงรายที่สะพานมิตรภาพ เชียงของ – ห้วยทรายแล้ว ยังมีเที่ยวบินที่บินตรงมายังท่ากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย โดยเที่ยวแรกจะมาในช่วงกลางเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้ ซึ่งได้เตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนทางอากาศไฟลต์แรกแล้ว
ด้านนายวิสูตร บัวชุม กล่าวว่า หลังจากประเทศจีนเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมาคาดว่าจะมีชาวจีนเดนทางเข้าสู่ประเทศไทยในช่วง 3 เดือนหรือเดือน ม.ค.-มี.ค.นี้ จำนวนประมาณ 300,000 คน โดยมาทั้งทางบก อากาศและทางน้ำ รวมถึงด้านด่านพรมแดน อ.เชียงของ ด้วย ซึ่งวันนี้มีการเดินทางมา 2 กรุ๊ปใหญ่จากเมืองคุณหมิงและปักกิ่ง ของประเทศจีน รถยนต์ประมาณ 15 คัน มีนักท่องเที่ยวเดินทางมา 60-70 คน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าการท่องเที่ยวจะกระเตื้องขึ้น โดยหลังจากช่วงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่สามารถจัดทัวร์ท่องเที่ยวจีนได้ รวมไปถึงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งจะส่งผลทำให้การท่องเที่ยวเติบโตขึ้น โดยในปี 2560 เชียงรายมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเกือบ 2 แสนคน ในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนมาเที่ยวประเทศไทยมากกว่า 5 ล้านคน ซึ่งโอกาสที่นักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาเชียงราย โดยเฉพาะที่ด่านเชียงของอาจเทียบเท่าปี 2560 โดยทางภาครัฐมีการบูรณาการหน่วยงานเพื่อเตรียมรับมือ อำนวยความสะดวก ซึ่งจะทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวของเชียงรายเพิ่มขึ้นคาดว่าจะมีนัทท่องเที่ยวมาพื้นที่กว่า 4 ล้านคนและจะทำให้มีเงินสะพัดจากากรท่องเที่ยวกว่า 20,000 ล้านบาท
นายพีรกานต์ บูรณากาญจน์ นายด่านศุลกากรเชียงของ กล่าวว่าในช่วงนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนเริ่มเข้ามาผ่านด่านเชียงง ของ แต่ยังไม่มากนักส่วนหนึ่งอาจมาจากเพิ่งมีการเปิดประเทศ ยังอยู่ระหว่างการเตรียมการ คาดว่าในช่วงหลังการอนุญาตให้จัดกรุ๊ปทัวร์ได้ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ น่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทางด่านมีการเตรียมพร้อมไว้รองงรับทั้งด่านการค้าและการท่องเที่ยว โดยบูรณาการร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้ทุกด้าน เชื่อว่าน่าจะไม่มีปัญหาหรือออุปสรรคใดๆ
Discussion about this post