เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 น.อ.ชาญชัย ผลประเสริฐ ผบ. นก.พตน.ศรชล.ภาคเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุด นก.พตน.ศรชล.ภาค 3 บูรณาการด้านการข่าวกับ จนส. ขว.ทรภ 3 และ จนส.ขว.ทร. ว่าได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงสิ่งของผิดกฎ หมายโดยไม่ผ่านพิธีศุลกากร บริเวณแม่น้ำกระบุรี ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง การนี้ น.อ.ชาญชัย ผลประเสริฐ ผบ.นก. พตน.
ศรชล.ภาค 3 ได้สั่งการให้จัดเรือโจมตีลาดตระเวน ต.253 และเรือต.232 เส้นทาง ลำน้ำกระบุรีถึงคลองละอุ่น และจัดชุด ชปพ.เข้าดำเนินการพิสูจน์ทราบ และหาข่าวในพื้นที่เป้าหมาย
จากนั้น ชุดชปพ.นก.พตน.ศรชล. ภาค 3 ตรวจพบเรือหางยาว ต้องสงสัยลำเลียงยางพาราแผ่นมาจากประเทศเมียนมา เข้ามาบริเวณคลองละอุ่น ตามที่แหล่งข่าวแจ้งมาในการนี้ ชุด ชปพ.นก. พตน.ศรชล.ภาค.3 จึงแสดงตน และเข้าตรวจสอบจากการตรวจสอบพบยางพาราแผ่นประมาณจำนวน 4,000 กก.วางอยู่ในเรือหางยาวและบนท่าเทียบเรือ ส่วนคนขับเรือ อาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ จนท.จึงตรวจยึดและอยู่ระหว่างนำส่งของกลางให้กับศุลกากรระนองเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ เป็นไปตามสั่งการของ นรม.ในที่ประชุม ครม. ให้ ศรชล.ดูแลเรื่องสินค้าเกษตรที่หลีกเลี่ยงภาษีในทะเลและพื้นที่รับผิดชอบ
ซึ่งการลักลอบขนสินค้าเกษตรจากหระเทศเพื่อนบ้านหลายชนิดไม่เฉพาะยางพารา ไม่สร้างความเสียหายกับพี่น้องเกษตรกร เนื่อง จากผู้รับซื้อจะซื้อยางพาราหรือสินค้าเกษตรที่ลักลอบนำเข้า ซึ่งมาราคาถูกกว่าของคนไทยแม้คุรภาพสินค้าจะต่ำกว่าของคนไทย โดยนำไปปะปนกับสินค้าเกษตรของไทย ทุกครั้งที่คนไทยนำสินค้าไปขายจะถูกกดราคาให้เหลือเท่ากับสินค้าที่ลักลอบเข้ามาในระนอง ทั้งที่เกษตรระนองมีต้นทุนค่าดูแลที่สูงกว่าแต่คุณภาพสินค้าดีกว่า เมื่อมีการนำสินค้าคุณภาพต่ำมาปะปนเมื่อนำไปแปรรูปหรือส่งออกอาจจะเกิดปัญหาตามมาจากผู้รับซื้อหรือผู้ที่นำสินค้าไปแปรรูเป็นการสร้างความเสียหาให้เกษตรกรชาวไทยเป็นอย่างมาก.
Discussion about this post