ก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 แล้วที่หมู่บ้านสบขุ่น ต.ป่าคา อ.วังท่าผา จ.น่าน ได้เข้าร่วมโครงการ “สบขุ่น โมเดล” ผ่านการสนับสนุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ กับเเนวทางการพัฒนา “กาแฟสร้างป่า สร้างรายได้” ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่ได้หันมาปลูกกาแฟกันมากขึ้น ทำให้พื้นที่ที่เคยทำการเกษตรปลูกพืชเชิงเดี่ยวมาตลอดระยะเวลาหลายปี ได้พลิกฟื้นกลับมาชุ่มชื้นและเขียวขจีอีกครั้ง โดยปัจจุบันได้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นแล้วจำนวน 2,148 ไร่ จากความร่วมมือกันของชุมชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ได้เข้าไปศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาให้คนกับป่าสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
เกษตรกรบ้านสบขุ่นที่หันมาปลูกกาแฟ ปัจจุบันมีความสุขมากขึ้น โดยมีเกษตรกรผู้หันมาปลูกกาแฟแล้วกว่า 98 ครัวเรือน รวมเป็นจำนวนกว่า 702 ไร่ นอกจากจะได้ความร่มรื่นกลับคืนมา เกษตรกรยังได้สุขภาพที่ดีกลับคืนมา และรายได้ที่มั่นคงขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ทางโครงการฯ ไม่เพียงแต่สนับสนุนให้เกษตรกรหมู่บ้านสบขุ่นหันมาปลูกกาแฟเท่านั้น แต่เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังได้ร่วมกันจัดตั้ง “โรงแปรรูปกาแฟสบขุ่น” เพื่อพัฒนาให้หมู่บ้านมีที่รองรับผลผลิตจากชุมชน และแปรรูปส่งออกผลผลิตไปสู่ตลาด กลายเป็นผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟจากหมู่บ้านสบขุ่น สร้างรายได้ และสร้างอาชีพต่อยอดให้กับคนในชุมชนอีกด้วย
ปัจจุบันหมู่บ้านสบขุ่น ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยว เพราะนอกจากวิวทิวทัศน์อันงดงามจากธรรมชาติที่ห้อมล้อม ยังมีร้านกาแฟบ้านสบขุ่น ที่จัดตั้งโดยวิสาหกิจชุมชน เป็นจุดเช็คอินที่ถ้าหากใครได้มาเยือนเป็นอันต้องแวะมาชิมกาแฟสบขุ่น โดยมีบาริสต้าฝีมือดี ซึ่งเป็นลูกหลานชาวบ้านสบขุ่นที่คอยต้อนรับและบริการลูกค้าทุกคนด้วยรอยยิ้ม และยังมีจุดเช็คอินอื่นๆ ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมบรรยากาศอันเงียบสงบ และสวยงามของหมู่บ้านสบขุ่นโดยรอบอีกมากมาย
ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาพื้นที่ ทรัพยากร และบุคคล แต่ยังเปลี่ยนชุมชนที่เงียบเหงาจากที่ต่างคนต่างยุ่งกับการทำไร่ทำนา ให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง มีการรวมกลุ่มของเหล่าเกษตรกรปลูกกาแฟ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแก้ไขปัญหาร่วมกัน สนับสนุนให้ชุมชนจัดกิจกรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ เติมเต็มความสุข และเรียกรอยยิ้ม เกิดความรักใคร่ กลมเกลียวกันมากขึ้น สบขุ่น โมเดล จะเป็นโมเดลสำคัญที่สามารถนำไปปรับใช้และพัฒนาพื้นที่เขาหัวโล้น เพราะในระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ได้มีความเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นกับ หมู่บ้านสบขุ่น เกษตรกรหลายคนค่อยๆ ปรับเปลี่ยนวิถีการทำเกษตรแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ไปสู่การปลูกพืชเศรษฐกิจ อย่าง กาแฟ ฟักทอง โกโก้ และพืชเศรษฐกิจอื่นๆ แม้ต้องใช้ความอดทน แรงกาย แรงใจมหาศาลในการเปลี่ยนแปลง แต่อย่างน้อยวันนี้ หมู่บ้านสบขุ่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า หากทุกภาคส่วนใส่ใจร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยเอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วมองดูปัญหาอย่างลึกซึ้ง ก็จะสามารถหาทางออกที่ทำให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง
@@@@@@@@@@@@
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
จ.น่าน โทร 084-8084888
Discussion about this post