

เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 31 มค.66 ที่ศาลาเอนกกประสงค์ อบต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม มีชาวบ้านกว่า 100 คนมารวมตัวกันเนื่องจากเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันสมุธซี 22 ที่จอดซ่อมเรือหน้าอู่ซ่อมเรือบริษัทรวมมิตรด็อกยาร์ด จำกัด เกิดระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที่ทำงานอยู่บนเรือ 8 รายชาวพม่า 7 ราย คนไทย 1 ราย บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด หมู่ 8 และ หมู่ 2 จำนวน 98 หลังคาเรือ ต.บางจะเกร็ง จำนวน 29 หลังคาเรือน ต.แม่กลอง จำนวน 5 หลังคาเรือ รวม 132 หลังคาเรือน
ทางบริษัทรวมมิตรด็อกยาร์ด จำกัดใด้เมอบอำนาจให้นายรังสรรค์ วงโพธิสาร เป็นตัวแทนผู้ได้รับมอบอำนาจ จ่ายเงินค่าผลกระทบร่างกายและจิตใจ คนละ 5,000 บาท จำนวน 98 ราย แต่ชาวบ้านมีอีกจำนวนมากไม่ยอมรับเงิน แต่ขอให้ซ่อมบ้านที่พังเสียหายให้ก่อนจึงขอรับเงินชดเลยด้านร่างกายและจิตใจ
ด้านนายวิรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 109 / 2 หมู่ 8 ต.แหลมใหญ่ ประกอบอาชีพชาวประมงพื้นบ้าน บ้านได้รับความเสียหายกว่า 200,000 บาท ไม่ขอรับเงินชดเชยนี้ จะรับเงินนี้เมื่อมีการซ่อมบ้านที่พังเสียหายให้ก่อนให้กลับมาในสภาพเดิมเสียก่อนที่จะรับเงิน
นส.ญานิกา (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปีกับนายวรเมธ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 / 2 หมู่ 8 ต.แหลมใหญ่ บ้านอยู่ใกล้ๆเรือที่ระเบิด บ้านพังเสียหาย 2 หลัง ศาลพระภูมิเอียงทรุด แต่ มีเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสงคราม ประเมิดแบบราคาราชการให้แค่ 37,000 บาทเท่านั้นแต่ความเป็นจริงเสียหายหลายแสนบาทจึงตนรับไม่ได้
ด้านคดีความ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ยังไม่ได้สรุปสำนวนส่งให้อัยการฟ้องศาลดำเนินคดี เนื่องจากมีเอกสารจำนวนมาก
นายอมรศักดิ์ ฉัตรระทิน นายก อบต.แหลมใหญ่ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของบริษัทรวมมิตรด๊อกญาร์ด จำกัดได้ออกไปจ่ายเงินชดเชยด้านร่างกายขจิตใจชาวบ้านก่อนหน้านี้แล้วทำเอง เกิดปัญหาขึ้นมา ชาวบ้านบุกบริษัท คนอยากได้เงินจาก 98 รายเพิ่มเป็น 180 รายรับผิดชอบไปเถอะ ส่วนด้านคดีความบริษัทที่ทำประกันเรือเอาไว้บริษัทประกันภัยต้องรอให้ศาลตัดสินซี้มูลลงมาก่อนค่อยจ่ายเงินให้ผู้เสียหาย นานเป็นปีแน่บริษัทประกันภัยไม่จ่ายเงินง่ายๆจนกว่าจะมีคำสั่งศาลลงมานานเป็นปีแน่
Discussion about this post