จากกรณี เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ได้มี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ชาว จ.สุรินทร์ เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกสาวอายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 ถูกรุ่นพี่อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 พยายามข่มขืนในห้องน้ำโรงเรียน แต่ไม่สำเร็จเพราะมีคนผ่านมาเห็น ก่อนที่ต่อมาจะลากตัวพามาข่มขืนในห้องน้ำที่บ้านจนสำเร็จ โดยมีเพื่อนผู้หญิงอายุ 7 ขวบ อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ถูกบังคับให้ปิดตาห้ามมอง และขู่จะฆ่าปาดคอหากขัดขืน
น.ส.เอ เล่าว่า หลังเกิดเหตุลูกกลับมาบ้าน มีอาการเซื่องซึมอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง ได้แต่บอกว่าเจ็บที่อวัยวะเพศ กระ ทั่งวันที่ 27 ม.ค. คนแถวบ้านมาถามตนว่า ลูกถูกข่มขืนหรือไม่เพราะได้ยินเด็กเล่าในโรงเรียน เด็ก ๆ พูดกันจำนวนมาก จึงได้ไปถามลูก ก่อนพบว่าลูกถูกกระทำจริง แต่ลูกถูก ด.ช.10 ขวบ ข่มขู่จะฆ่าปาดคอ จึงไม่กล้าบอกใคร ตนจึงพาลูกไปโรงพยาบาลตรวจร่างกาย โดยแพทย์แจ้งผลเบื้องต้น พบอวัยวะเพศมีการอักเสบ เยื่อพรหมจารีย์ฉีกขาด จากการถูกของแข็งที่ไม่มีคม ตนหัวใจแทบสลาย เมื่อลูกต้องมาเจอกับเหตุการณ์นี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเด็ก 10 ขวบ จะกระทำได้เยี่ยงนี้ ตนได้ขอให้ทางโรงเรียนเป็นคนกลางเรียกผู้ปกครอง ด.ช. มาเจรจา แต่แม่ ด.ช. ได้ปฏิเสธ ไม่ขอรับผิดชอบใด ๆ เพราะทุกวันนี้ ด.ช. อาศัยอยู่กับยาย ให้ดำเนินคดีได้เลย ตนเกรงว่า ด.ช. รายนี้ จะไปทำอันตรายกับ ด.ญ. คนอื่นอีก จึงขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยให้ความเป็นธรรมด้วย
นางปวีณา กล่าวว่า ตอนนี้สภาพจิตใจ ด.ญ. ย่ำแย่มาก มีอาการหวาดผวานอนร้องไห้ทุกคืน ซึ่งจะต้องเร่งฟื้นฟูสภาพจิตให้ดีขึ้นโดยเร็ว สำหรับเรื่องคดีจะได้ประสาน ผกก.ทั้งสองสถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสอบสหวิชาชีพเด็กหญิงทั้งสอง ด.ช.ที่ก่อเหตุ โดยจะบูรณาการทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมผู้เสียหาย ดูแลสภาพจิตใจ และเรื่องการเยียวยาไปพร้อมกัน ตามที่ได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด-วันนี้ (31 ม.ค. 66 ) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้ลงพื้นที่อำเภอบัวเชด โดยเข้าสอบถามกับพ.ต.อ. เฉลิมศักดิ์ ชัยณรงค์ศักดิ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบัวเชด กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้มีการเรียกสอบถามเบื้องต้นแล้ว พร้อมทั้งนำตัวน้องผู้หญิงผู้เสียายไปให้หมอตรวจร่าง กายแล้ว ที่โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงไปดูบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของเด็กผู้ชายอายุ9 ขวบ โดยบ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของเด็กผู้ชายและอยู่ใกล้กันกับบ้านเด็กหญิงผู้เสียหาย ในวันเกิดเหตุวันที่ 21 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา แม่ของเด็กหญิงออกไปรับจ้างกรีดยาง ไม่ได้เอาลูกไปด้วย และปล่อยให้วิ่งเล่นอยู่กับเพื่อนๆ พร้อมเด็กชายที่ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุ หลังจากนั้นแม่ก็ยังไม่ได้รับทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว มารับทราบอีกทีเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 ซึ่งมีอดีตผู้ใหญ่บ้านมาบอกว่ารู้สาวตนถูกกระทำ แม่จึงได้เรียกลูกสาวมาสอบถาม จึงได้รู้ว่าถูกเด็กชายอายุ 9 ขวบ กระทำชำเรา จากนั้นจึงพาลูกมาเข้ามาแจ้งควกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.บัวเชด ในวันที่ 28 มกราคม 2566 ซึ่งงทางเจ้าหน้าได้ทำการสอบปากคำผู้เป็นแม่และนำตัวเด็กหญิงส่งตรวจร่างกายที่ รพ.บัวเชด จากนั้นจะได้นัดน้องไปสอบปากคำที่สำนักงาน อัยการจังหวัด พร้อมทีมสหวิชชาชีพ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาและผู้ถูกกระทำเป็นเด็ก ในวันจันทร์นี้ แต่ปรากฏว่าแม่และน้องผู้หญิงได้เดินทางไปยังมูลนิธิปวีณา ขณะนี้ก็ยังไม่กลับ ทราบว่าจะเดินทางกลับมาในวันพฤหัสนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานแล้ว หากกลับมาก็จะรับตัวไปสอบปากคำทันที่ที่สำนักงานอัยการจังหวัด
ส่วนผลการตรวจร่างกายของเด็กหญิง ทางแพทย์ก็ระบุว่าพบเนื้อ เยื่อพรมจรรย์ฉีกในเบื้องต้น และต้องรอผลตรวจยืนยันดีเอ็นเอ หากพบผลดีเอ็นเอของเด็กผู้ชายในตัวน้องผู้หญิง ก็น่าจะยืนยันว่าใช่ มีความน่าเชื่อถือ ในจอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับเด็กชายที่ถูกกล่าวหา จนกว่าจะมีการสอบปากคำของเด็กทั้ง 2 คนทั้งเด็กผู้หญิงและผู้ชาย ร่วมกับทีมสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการจังหวัดก่อน จึงจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา เป็นเรื่องระเอียดอ่อน เพราะที่ผู้ถูกกระทำการผู้ถูกกล่าวหาเป็นเด็กทั้งคู่ ซีงตำรวจจะทำ งานอย่างเต็มที่ ต่อกรณีที่มีข่าวว่ามีการกระชากกันที่โรงเรียนนั้น ยังไม่ทราบ รวมไปถึงการนขมขู่ของเด็กชายนั้น ยังไม่ทราบและไม่น่าจะมี เพราะเหตุเกิดที่ห้องน้ำในบ้านของเด็กชาย
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนางสุวรรณี (สงวนนามสกล) อายุ 54 ปี ยายของเด็กชายสาม (นามสมมุติ ) ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ โดยนางสุวรรณี ได้พาไปดูที่ห้อง น้ำ พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ปกติพวกเด็กๆ 4-5 จะพากันเล่นกันอยู่แถวบริเวณรอบบ้านและในบ้านกันเป็นประจำ ส่วนมากก็จะเป็นหลานๆของพวกตน แต่ก็จะมีเด็กผู้หญิงที่มีเรื่องกันมาเล่นด้วย ก่อนเกิดเรื่องสองสามวัน ปกติบ้านเขาจะอยู่อีกฟากหนึ่งของถนน และเพิ่งย้ายมาอยู่ซึ่งเป็นบ้านของอดีดผู้ใหญ่ และอยู่ไม่ห่างจากบ้านตนมากนัก มาอยู่ได้ประมาณ 3 วัน จากการสอบถามหลานชาย ก็บอกว่าไม่ได้ทำอะไร และถามเด็กที่เล่นด้วยกันก็บอกว่าเด็กชายสาม ไม่ได้ทำอะไรเช่นกัน ตอนที่ไปคุยกันกับผู้ปกครองที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน เด็กก็บอกว่าเด็กผู้หญิงเป็นคนให้ถอดกางเกง และลูกของน้องสาวก็เข้ามาเห็นและยืนยันว่าเด็กชายสาม ไม่ได้ถอดกางเกง ประมาณว่าเด็กผู้หญิงเป็นคนให้เด็กผู้ชายถอดเสียเอง ยายของเด็กชายสามกล่าว
นายสาน ซอมสุข ผู้ใหญ่บ้านตะเปียงคล็อง ท้องที่เกิดเหตุเล่าว่า หลังรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้เรียกผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยหารือกัน แต่ไม่สามารถพูดคุยได้ เพราะผู้ถูกกระทำและผู้ถูกกล่าวหาเป็นเด็ก ก็เป็นการสอบ ถามกันคร่าวๆเท่านั้น โดยถามน้องอีกคนที่อยู่ด้วย ก็บอกว่าเพียงแต่เห็นน้องผู้หญิงถอดกางเกงและให้เด็กผู้ชายถอดตาม แต่ยังไม่ได้ถอดก็มีคนเห็นก่อน ซึ่งจะให้ตนตัดสินใจให้ว่าใครถูกผิดนั้นทำไม่ได้ ซึ่งจากการพูดคุยของผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย โดยฝ่ายเด็กหญิงเรียกเงินค่าชดเชยไป 2 หมื่นบาท ซึ่งทางผู้ปกครองเด็กชายไม่มี จึงไปสามารถตกลงกันได้ ทางฝ่ายเด็กหญิงจึงได้พากันไปแจ้งความและเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณา.
Discussion about this post