เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ท่าเทียบเรือประภาคารด่านศุลกากรจังหวัดระนอง พล.เรือตรี สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.ตม.ระนอง พ.อ.ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผบ.ฉก.ร.25 ร่วมกับ พล.ร.ต. ไตขู ผู้บัญชาการทัพเรือภาคตะนาวศรี อัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย และอีกหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันเป็นพยาน ในการส่งกลับแรง งานชาวเมียนมา ชาย-หญิง รวมทั้งหมด 670 คน ที่ถูกกักตัวจากด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง เพื่อเดินทางกลับสู่จังหวัดเกาะสองประเทศเมียนมา เพื่อกระจายแรงงานเมียนมาทั้งหมดกลับภูมิลำเนาเดิมในหลายจังหวัดของประเทศเมียนมาซึ่งการส่ง
กลับในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมาของจังหวัดระนอง ที่มีการส่งกลับแรงงานที่ทำผิดกฎหมายไทยมากถึง 670 คน โดยมีทางผู้ใหญ่ของทางการเมียนมารับรองและมาดูด้วยตน เอง ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในการส่งกลับแรงงานมากถึงขนาดนี้
โดยการส่งกลับในครั้งนี้ พ.ต.อ. พิษณุ ผกก. ตม.ระนอง เปิดเผยว่า การส่งกลับแรงงานเมียนมาที่ทำผิดกฎหมายไทยจำนวนมากในครั้งนี้ เป็นผลมาจาก เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคน 66 กลุ่มแรงงงานทั้ง 670 ที่ถูกกักตัวได้รวมตัวกันทำการประท้วงทางการไทยเพื่อขอให้ทางการไทยส่งตัวแรง งานกลับประเทศ เนื่องจากหมดสิ้นเรื่องคดี แต่ต้องมาอยู่ในที่กัก ขังของด่านตรวจคนเข้าเมืองระนองเป็นเวลากว่า 4-6 เดือน
ภายหลังเกิดเรื่องและเป็นข่าวขึ้นมา จึงได้ทำการประสานทางการเมียนมาระดับสูง ให้รับทราบสถานการณ์ จนทางการเมียนมาในระดับสูงมีการอนุญาตให้ส่งกลับแรงงานทั้งหมดที่ถูกกักตัวกลับประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นความร่วมมือที่ดีต่อกันระหว่างไทยกับเมียนมา
ด้านแหล่งข่าวความมั่นคงจังหวัดระนอง ระบุว่า เป็นครั้งแรกที่มีผู้ใหญ่ระดับสูงจากประเทศเมียนมา ทั้งผู้บัญชาการทหาร อัคร ราชทูตเมียนมาประจำประเทศ ไทย เข้ามาดูการส่งกลับด้วยตนเอง เนื่องจากที่ผ่านมาการส่งกลับแต่ล่ะครั้งไทยต้องรอคำอนุ มัติจากเมียนมาว่าจะอนุญาตให้ส่งกลับหรือไม่ เนื่องจากกลุ่มคนที่ถูกดำเนินคดีในไทยจะต้องเจอการตรวจสอบจากทางการเมียนมา เพราะช่วงนี้ทางการเมียนมายังมีปัญหาภายใน คาดว่าน่าจะมีแรงงานจำนวนมากที่ส่งกลับถูกตรวจสอบอย่างหนัก โดยเฉพาะพวกหัวรุนแรงที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา แต่ก็เป็นเรื่องภาย ในของเมียนมา ส่วนไทยทำได้แต่ขอบคุณเมียมาที่รับแรงงานกลับเพราะมีภาระค่าใช้จ่าย พร้อมฝากบอกทางการเมียนมาหาก แรงงานจะเข้ามาให้เข้ามาตามช่องทางที่ถูกต้องไม่ว่าจะมาท่องเที่ยวหรือทำงานในไทย.
Discussion about this post