วันที่ 4 ก.พ.66 ปู้สื่อข่าวรายงาน ว่าพ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รองผกก.สืบสวน สภ. บาง ศรีเมือง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีชายใช้อาวุธปืน ยิงขึ้นฟ้าและข่มขู่ หน้าบริษัท สำนักงานกฎหมายเพื่อประชาชน เลขที่ 1/106 หมู่ 1 ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี พบผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมาคือนายชิดชนก (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี จึงเข้าควบ คุมตัวและตรวจค้น พบภายในกระเป๋าสะพาย มีอาวุธปืนแบบ backgral ขนาด 9 มม พร้อมกระสุนอีก 1 นัด
จากการสอบสวนทราบว่านายชิดชนกให้การรับสารภาพ ว่า ตนเองนั้นอยู่กินกับภรรยา คือนางสาวสมพร (สงวนนามสกุล) 36 ปีมาหลายสิบปี จนมีลูกด้วยกันชายหญิงรวม 3 คน โดยก่อนเกิดเหตุเพียง 1 วันภรรยาของตนซึ่งทำงานอยู่ที่บริ ษัทแห่งนี้มักจะกลับบ้านผิดเวลาเป็นประจำ สุดท้ายแล้วภรรยาของตนก็ยอมรับว่า เคยทำผิดกับตนเองมาแล้วแต่เหตุการณ์ทั้งหมดก็ผ่านมาเป็นเวลา 2 ปี จึงทำให้ตนเองนั้นเกิดความไม่ไว้วางใจในตัวภรรยาสุดที่รัก จนกระทั่ง เมื่อเย็นวานที่ผ่านมา ตนไม่สามารถที่จะติดต่อภรรยาได้ทั้งที่เป็นเวลาเลิกงานแล้ว จึงรู้สึกโมโหและโกรธเป็นอย่างมาก วันนี้จึงเดินทางมาดักรอภรรยาที่หน้าบริษัทที่ทำงานก่อนที่จะตะโกนเรียกภรรยา ให้ออกมาหาแต่ก็ไร้วี่แวว ยิ่งสร้างความไม่พอให้กับตนเองเป็นอย่างมากจึงได้ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาชักยิงขึ้นฟ้าไป 1 นัด ก่อนที่จะถูกเจ้าของบริษัทที่ภรรยาทำงานอยู่ด้วยแจ้งเจ้าหน้า ที่ตำรวจ มาถึงที่เกิดเหตุ รวบตัวตนได้ทันควันพร้อมกับอาวุธปืนที่ ก่อเหตุ
ด้านนางสาวสมพร ภรรยาผู้ก่อเหตุกล่าวว่า เค้าหาว่าตนนอกใจเขาแต่ตนเลิกพฤติกรรมแบบนี้ไปนานแล้ว ทุกวันนี้ตนอยู่กับครอบ ครัว แต่เขาเข้าใจผิดตน ตนไปทำงานและได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้างานต้องมีงานเยอะขึ้นและกลับบ้านดึก เขาถามตนทุกวันว่างานเลิกกี่โมง ล่าสุดตนบอกเขาว่าตนเลิก 1 ทุ่มแต่ตนเหรดเวลาเพราะงานมันยังไม่เสร็จ ตนยอมรับผิดเพราะไม่ได้โทรบอกเขาและโทรศัพท์แบตหมดตนลืมชาร์จแบตเนื่องจากงานเยอะทำให้ติดต่อไม่ได้ และมาเกี่ยวโยงกับตนที่สั่งของให้กับคนที่อยู่ในออฟฟิต สั่งให้หลายคนและต้องสั่งเผื่อคนที่เขาไม่ชอบด้วยเพื่อจะได้เสียค่าส่งทีเดียวและไม่ต้องเสียค่าชาร์ตเพิ่ม ตนพยายามอธิบายแต่เขาไม่เข้าใจ ส่วนเรื่องที่ตน มีผู้ ชายอยู่ที่จังหวัดระยองเรื่องเกิดมาเมื่อ 2 ปีที่แล้วตนก็ยอมรับผิด ตนปรับตัวใหม่เรื่องจบไปหมดแล้ว ตนยืนยันเรื่องที่จะมีคนอื่นตัดออกไปได้เลย ตอนนี้พะวงอยู่กับเหตุการณ์เดียว เพราะว่าตนได้รับหน้าที่เรื่องงานมา ตนต้องทำให้ดีที่สุด ซึ่งมันเป็นความเจริญก้าว หน้าของตนเขาก็น่าจะเข้าใจ ตอนนี้ตนกลัวมากกลัวว่าเขาจะกลับมาทำร้าย ร่างกายอีก เวลาตอนโดนทำร้ายมีบาดแผลก็จะโกหกที่ทำงานว่ารถล้มไม่เคยเอ่ยถึงเขาเลย แม้แต่น้อย บริษัทเขาก็รู้ว่ามันเกิดจากอะไร ตอนนี้เกิดเหตุแบบนี้ตนก็ยังอยากอยู่กับเขาเนื่องจากเราอยู่กันเป็นครอบครัวตนรักเขา ตนขอร้องอย่าทำร้ายร่างกายตนอีกแต่ถ้าทำอย่าทำที่สาธารณะ ตนยอมรับได้
ด้านนางสาวเอเพื่อนสาวบริษัทเดียวกันกล่าวว่า ตนมองว่าน่ากลัวมากพนักงานในร้านไม่ปลอดภัย อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยมาตรวจตราตรงที่เกิดเหตุให้หน่อย เพราะบางคนที่ทำงานอยู่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยได้ยินเสียงปืนดัง กลัวว่าโดนลูกหลง อยากให้ทั้งสองคนใจเย็นๆและไปเคลียร์กันที่บ้าน บางครั้งภรรยาต้องทำงานตามกฎระเบียบของบริษัทตรงนี้ก็น่าเห็นใจ มีอะไรน่าจะคุยกันด้วยเหตุผล เพราะต่างคนต่างก็มีหน้าที่ของตนเอง.
Discussion about this post