วันที่ 5 ก.พ.66 ที่บริเวณโรงเรียนวัดปากสมุทร ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม กลุ่มประชาคมคนรักแม่กลอง ได้เปิดเวทีทำประชาคมขึ้นเพื่อถอดบนเรียนกรณีเรือบรรทุกน้ำมันสมุธซี 22 ขณะจอดเรือซ่อมบำรุงริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง หน้าบริษัทรวมมิตรด็อกยาร์ด จำกัด ทำให้แรงงานชาวพม่า และ คนไทยเสียชีวิตทันที 8 ศพ บ้านเรือนสองฝากฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดรวม 132 หลังคาเรือน ขณะที่ทางบริษัทรวมมิตรด็อคยาร์ด ได้เจียวยาชาวบ้าน ด้านร่างกายจิตใจ คนละ 5,000 บาทรวม 98 คน ส่วนค่าชดเสียความเสียหายยังไม่ได้รับเงินชดเชย i
ชาวบ้านแหลมใหญ่ เข้าร่วมเวทีทำประชาคม 80 คน มีนางอรสา เทียนทอง เป็นแกนนำกลุ่มประชาคมคนรักแม่กลอง เพื่อถอดบนเรียน ส่วนใหญ่มีมติยกมือไม่ให้บริษัทซ่อมเรือบรรทุกน้ำมันขยายท่าเทียนเรือขนาด 2500 ตันกรอส เป็นขนาด 500 ตันกรอส การซ่อมเรือต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีวิศวกรเข้ามาควบคุมดูแลการซ่อมเรือแต่ละครั้ง
เพื่อป้องกันปัญหาเรือเกิดระเบิดขึ้นอีก และถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการซ่อมเรือต้องมีวิศวกรมาควบคุมดูแลหรือไม่ เพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นซ้ำสอง การออกใบอนุญาตสร้างคลังน้ำมันหรือคลังแก๊ส ควรไปสร้างที่ห่างจากชุมชุม ไม่ใช่อนุญาตสร้างกลางชุมชนแบบนี้ ชาวบ้านเสนอให้แก้กฎหมาย เรื่องเงินชดเชยความเสียหาย โดยเร็ว หลังคาพัง ฝนตกลงมาก็รั่ว ไม่ไร้วิ่แววเงินชดเชยที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบ รอนานเกินไปให้ได้รับเงินชดเชยช้ามาสกๆ
ชาวบ้านไม่ต้องการให้ใครมาสร้างคลังน้ำมันหรือคลังแก๊สกลางชุมชนอีกต่อไปแ ก่อนจะอนุญาตให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาทำประชาวิจารย์ในชุมชนเสียก่อน ไม่ใช่อยู่ๆอนุญาตลงมาทั้งที่ มี อบต.ก็ไม่รู้เรือ่งเพราะไม่มีสิทธิอนุญาต กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงพลังงานต้องทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง ไม่ใช่อนุญาตมันโดยที่ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง เวลา 12.00น.ปิดเวทีประชาชน ข้อเสนอแนะการแสดงความคิดเห็นของชาวบ้าน ทางกลุ่มประชาชนครรักแม่กลอง จะได้นำเสนอให้ ทาง ผวจ.สมุทรสงคราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป
Discussion about this post