
วันที่ 9 กพ 66 ผู้สื่อจังหวัดปราจีนบุรีได้พบกับนักศึกษาสาวจากวิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรีชั้น ปวช.ปี 2 ซึ่งนักศึกษาสาวคนดังกล่าวได้กล่าวว่าขณะที่ออกจากบ้านมารอรถจะไปเรียนที่วิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี เข้าห้องน้ำที่สถานีรถไฟกบินทร์บุรีเดินผ่านหน้าแคมป์คนงานแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟกบินทร์บุรี ได้พบโทรศัพท์มือถือตกอยู่ที่พื้นทางเดิน 1 เครื่องจึงมองหาคนคนที่อยู่บริเวณที่โทรศัพท์ตกอยู่แต่ไม่มีใครอยู่ จากนั้นคิดว่าช่วงเช้าที่ผ่านมาอาจมีประชาชนที่มาขึ้นรถไฟทำโทรศัพท์มือถือตกหล่น จึงคิดว่าจะเอาไปฝากไว้กับหัวหน้าสถานีรถไฟเพื่อประกาศตามหาเจ้าของ
เวลาต่อมามีคนโทรเข้ามายังโทรศัพท์เครื่องนี้คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของจึงกดรับสาย และยืนยันว่าเจ้าของโทรศัพท์ได้ทำโทรศัพท์หล่นหายไม่รู้ว่าหล่นหายที่ใด และบอกว่าให้เอาไปฝากไว้กับลุงที่อยู่ในแคมป์คนงาน แต่ไม่มีใครอยู่และต่อมาก็โทรกลับเข้ามาอีกว่าได้ฝากโทรศัพท์ไว้กับเพื่อนที่อยู่ในแคมป์คนงานหรือไม่ นักศึกษาสาวบอกว่าในแคมป์ไม่มีใครอยู่ จากนั้นได้บอกว่าให้เอาไปวางไว้ไว้ที่กระบะหลังรถ toyota สีขาวที่จอดอยู่ในแคมป์คนงานเดี๋ยวจะมีเพื่อนร่วมงานมาเอาไปเก็บไว้คืนเจ้าของ ทราบว่าเจ้าของโทรศัพท์ชื่อนายวิลาศ หินประกอบ คนงานอยู่ในแคมป์ก่อสร้างหลังจากที่ทราบว่าได้ทำโทรศัพท์มือถือหายจึงให้เพื่อนชื่อนัท โทรเข้ามือถือของตนเองที่ทำหล่นหายหากมีคนเก็บได้จะขอคืน นายนัดกล่าวว่าเพื่อนดีใจมากที่ทราบว่ามีคนเก็บโทรศัพท์มือถือได้และเอาไปฝากไว้ในที่ทำงาน ขณะนี้ตนเองกับเพื่อนได้ออกเดินทางไปยังหน้างานต่างจังหวัดขอบคุณน้องที่เก็บโทรศัพท์ได้คืนเจ้าของและจะให้สินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ พรุ่งนี้ให้มารับสินน้ำใจจากเจ้าของที่หน้าแคมป์คนงาน
นส.พรธีรา คำพันธ์ อายุ 21 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรีชั้น ปวช.ปี 2/2 กล่าวว่า ขณะที่เก็บโทรศัพท์มือถือได้ก็อยากคืนเจ้าของ เข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เป็นเจ้าของที่ทำของหล่นหาย โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องมีราคาสูงเจ้าของที่ซื้อมากว่าจะหาเงินมาซื้อได้ที่ทำตกหล่นหายไปคงเสียดายจึงอยากเก็บคืนเจ้าของ หลังจากที่เจ้าของได้โทรเข้ามาและบอกว่าให้นำไปไว้ที่กระบะหลังรถสีขาวจะมีเพื่อนร่วมงานนำเอาไปเก็บไว้คืนเจ้าของ จากนั้นได้เดินทางไปเรียนหนังสือที่วิทยาลัย
Discussion about this post