วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ภายหลังการจัดงานบุญประเพณีเดือนสาม งานนมัส การพระธาตุพนม ประจำปี 2566 โดยจัดขึ้นในวันขึ้น 8 ค่ำ-แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี โดยปีนี้ถือว่าจัดอย่างยิ่งใหญ่ หลังได้รับผลกระทบจากโรคโควิดระบาด จึงต้องงดจัดงานประเพณีเดือนสามมากว่า 2 ปี โดยปีนี้ทางจังหวัดนครพนม ร่วมกับวัดพระธาตุพนมฯ อำเภอธาตุพนม และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 29 มกราคม-6 กุมภาพันธ์ 2566 รวม 9 วัน 9 คืน ทำให้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ถูกจับจองเต็ม ทุกพื้นที่กลายเป็นธุรกิจ สร้างรายได้แก่คนในชุมชนจำนวนมาก โดยคาดว่าทุกปีมีเงินหมุนเวียนสะพัดรวมๆแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
เนื่องจากในแต่ละวันมีประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ชาวลาว เดินทางมากราบไหว้ทำบุญ ขอพรองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี ที่ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ กระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธ เจ้า เชื่อกันว่า ใครได้มาทำบุญกราบไหว้ จะมีความสุข ความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน ทุกปีในงานบุญประเพณีเดือนสาม จึงมีพลังศรัทธาและนักแสวงบุญ เดินทางมาทำบุญปีละนับแสนคน
โดยหลังจากที่งานสิ้นสุดลงกรรมการวัดพระธาตุพนมวรมหา วิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้ออกมาเปิดเผยยอดการบริจาคทำบุญ รวม 9 วัน 9 คืน ในงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ประจำปี 2566 ได้รับเงินบริจาคเป็นเงินทั้งสิ้น 23,513,910 บาท (ยี่สิบสามล้านห้าแสนหนึ่งหมื่นสามพันเก้าร้อยสิบบาทถ้วน) โดยแยกออกเป็นค่าบูชาดอกไม้ธูปเทียน 3,745,300 บาท (สามล้านเจ็ดแสนสี่หมื่นห้าพันสามร้อยบาทถ้วน) รายได้จากบาตรคู่อายุ 514,180 บาท (ห้าแสนหนึ่งหมื่นสี่พันหนึ่งร้อยแปดสิบบาทถ้วน) รายได้จากการให้บูชารูปเหรียญ จำนวน 1,978,900 บาท (หนึ่งล้านเก้าแสนเจ็ดหมื่นแปดพันเก้าร้อยบาทถ้วน) บริจาคซื้อที่ดิน จำนวน 8,528,840 บาท (แปดล้านห้าแสนสองหมื่นแปดพันแปดร้อยสี่สิบบาทถ้วน) และแผนกการกุศลอื่นๆ รวมเป็นเงินมากกว่า 7 ล้านบาท ซึ่ง แสดงออกให้เห็นถึงพลังศรัท ธาที่ยิ่งใหญ่ ของชาวพุทธทั้งชาวไทยและชาวลาวทั่วทุกสารทิศ ที่ศรัทราเลื่อมใสในองค์พระธาตุ พนม และได้ร่วมกันทำบุญใหญ่ในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน.
Discussion about this post