เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 11 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพระสมุห์บุญเกิด ฐานุตฺตโร เจ้าอาวาสวัดบางม่วง ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ว่ามีพระลูกวัดชื่อพระวิฑูรย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ยืมเงินญาติโยมที่มาทำบุญในวัดไปใช้จ่ายส่วนตัว รวมแล้วหลายล้านบาท ทำให้ทางวัดเสื่อมเสียชื่อเสียง ทางเจ้าอาวาสทราบข่าวจึงได้จับพระรูปดังกล่าวทำ การสึกทันที
พระสมุห์บุญเกิด ฐานุตฺตโร เจ้าอาวาสวัดบางม่วง กล่าวว่า อดีตพระวิฑูรย์เขาเป็นพระลูกวัด เนื่อง จากวัดนี้ไม่มีเลขา เขาบวชมาประ มาณ 7 พรรษา และเขาทำเรื่องนี้มาก่อนที่อาตมาจะมาเป็นเจ้าอา วาส อาตมาทราบข่าวตั้งแต่เพิ่งมาเป็นเจ้าอาวาส และตามสืบเรื่องนี้มาเรื่อยๆ 8 เดือนสุดท้ายก่อนที่อาตมาจะจับอดีตพระวิฑูรย์สึกมีข้อมูลแน่นแล้วเลยเรียกเขามา สอบถาม 2 ข้อกล่าวหา ซึ่งจำนนตั้งแต่ข้อกล่าวหาแรก รวมแล้วน่าจะประมาณคร่าวๆถึง 30 ล้าน ตามที่ทราบข่าวมา กรณีนี้ไม่ใช่เป็นเงินที่บริจาคเข้าวัด แต่เป็นเงินที่อดีตพระวิฑูรย์หยิบยืมมาเพื่อไปใช้ส่วนตัวอะไรไม่รู้ และบอกให้ญาติโยมสร้างพระองค์ละ 30,000 บาท เพื่อต่อชะตาอะไรตามวิชามารที่เรียนมา และญาติโยมมัดจำมาแล้วประมาณ 20 กว่าองค์ องค์ละ 25,000 บาท คูณด้วย 20 องค์ บัดนี้ยังไม่ได้พระเลย 5 ปีแล้ว ญาติโยมก็ทวงถามและทวงเงินที่ให้ยืมมานานแล้ว
อาตมาในฐานะเป็นเจ้าอาวาสก็ดำเนินการจับสึก ตอนนี้หมดหน้าที่ของเจ้าอาวาสแล้ว และอาตมาได้ช่วยไปเป็นจำนวนเงินพอสมควร พอถามก็ผลัดไปเมื่อนั่นเมื่อนี่โดยตลอด ตอนนี้ญาติโยมโทรเข้ามาหาอาตมาเยอะ จึงต้องดำเนินการตามหน้าที่ของเจ้าอาวาส อาตมาเสียหายนิดหน่อยด้วยความเมตตา เลข 7 หลัก อาตมาคุยแล้วอดีตพระวิฑูรย์บอกว่าไปเดินเรื่องเกี่ยวกับธนาคารตามประสาเขา แต่ไม่มีหรอกธนาคารที่ไหนจะอนุมัติ 4-5 ทุ่ม แล้วใช้เงินกลางคืน เขามีวิธีพูดของเขา อันนี้สอบถามจากทางญาติโยมที่โดนๆกันมา หากญาติโยมคนไหนต้องการข้อมูลสามารถโทรมาสอบถามกับอาตมาได้ด้วยเบอร์สายตรง เท่าที่ทราบตอนนี้มีผู้เสียหายประมาณ 30 กว่าคน ที่ไม่รู้อีกเยอะ อดีตพระวิฑูรย์เขาก็มาวัด สึกแล้วก็ 3 วันต้องออกจากวัด ตอนนี้ก็ทยอยมาเก็บของออกจากทางวัด ที่นี่เมื่อก่อนมันมีหมอดู อดีตพระวิฑูรย์ก็มีจิตวิทยาในการพูดให้คนเชื่อ คำพูดคำจาเพราะเสนาะหู แล้วก็หาวิธียืมเงินสร้างนั่นนี่โดยที่วัดไม่รู้ไม่เกี่ยว อาตมาก็กลัววัดจะเสียหาย ซึ่งอาตมาทำความดีมาโดยตลอด และมาเจอพระในวัดทำแบบนี้อาตมาก็จำเป็นต้องจับสึก แล้วตั้งแต่อาตมามาอยู่ที่วัดนี้ก็สึกไปหลายรูป อาตมามาอยู่ที่วัดนี้ 2 ปี แต่ก่อนหน้านั้นเขาทำแบบนี้มาประมาณ 3 ปี รวมเป็น 5 ปีแล้ว ตอนนี้มีผู้เสียหายแจ้งความหลายใบ มีส่งใบแจ้งความมาทางไลน์ของอาตมาด้วย อาตมาก็ไม่ทราบว่าเอาเพจวัดไปยืมเงินใครบ้างหรือเปล่า โยมบางท่านก็ยังไม่ได้ส่งข้อมูลใบแจ้งความมา พระลูกวัดรูปนี้เป็นรูปเดียวกับที่ไลฟ์สดในเพจวัด เพราะเพจวัดเป็นรูปอาตมา ถ้าอดีตพระวิฑูรย์นี้ไปยืมเงินใครทักมาหาอาตมาได้เลย วัดนี้มีแต่ให้ตั้งแต่อาตมามาอยู่ ตอนนี้ดำเนินการตามขั้นตอนหากญาติโยมไปแจ้งความสามารถทักไลน์อาตมามาได้ จะได้รวบรวมและดำเนินการเรียกอดีตพระวิฑูรย์มาเจรจาเลยว่าจะดำเนินการยังไง ส่วนตัวของอาตมาเรายกให้คิดว่าเป็นกรรมที่ไปเอาของเขามา แต่หากเอามาคืนอาตมาจะนำเงินมาสร้างวัตถุในวัดทั้งหมด ไม่เอามาเป็นเงินส่วนตัวถือว่าให้ไปแล้ว
นายวิฑูรย์ (ขอสงวนนามสกุล) หรืออดีตพระวิฑูรย์ อายุ 59 ปี กล่าวว่า หลายๆคนได้รับกระแสข่าวของตน เรื่องตนได้มีการขอ ยืมเงินจากญาติโยมเป็นความจริง แต่เงินทุกบาททุกสตางค์ เอาไปช่วยลูกศิษย์ซึ่งยังไม่ได้เปิดเผย เพราะฉะนั้นเงินมีที่มาที่ไปหมด ตนเอาไปช่วยเพราะเขาเดือดร้อน แต่จุดที่ตนพลาดคือตนไม่คิดว่าเวลามันจะยาวนานขนาดนี้ เรื่องมันไม่ได้มีอะไรเป็นประเด็นมาก มาย ตนเตรียมที่จะคืนเงินทุกคนภายในสัปดาห์หน้าอยู่แล้ว แต่บังเอิญเวลามันเรทไป ยอดตัวเลขจริงตัวของตนเองรู้ แต่ตัวเลขที่เขาเมคกันเป็นข่าวลือ ตนจะไม่แก้ข้อกล่าวหาเพราะตัวเลขจริงมันอยู่ที่ตน ไม่มีทางถึง 30-40 ล้านบาท ตัวเลขจริงวงเงินไม่ถึง 8 ล้านแค่นั้น เรื่องนี้มันผ่านมา 2 ปี ไม่ใช่ว่าเพิ่งเกิดแต่มันเพิ่งเป็นข่าว ถ้าถามว่าตัวของตนเองผิดไหม ผิด ตนพิจารณาตนเอง ไม่ต้องรอให้สังคมมาลงโทษ ตนลงโทษตนเองก่อน เพราะตนผิดจริง เงินทั้งหมดเอาไปช่วยลูกศิษย์ ไม่มีการใช้จ่ายอย่างอื่น เรื่องพระหินตนไปสร้างเอาไปซื้อหินซื้อของให้ช่างเขาแกะ แต่บังเอิญว่ายังไม่ได้ไปตามงาน จะเคลียร์เงินให้ได้ภายในเดือนนี้ทั้งหมด เพราะเหตุ ผลดำเนินการมาได้เกือบ 1 ปีแล้ว มันพึ่งจะสำเร็จ แก้ไขปัญหาทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ทำเขาไม่เกี่ยวด้วย ตนเป็นแค่ตัวกลางที่ต้องมานั่งรับปัญหา ตัวเลข 30 ล้าน ตนรู้รายละเอียดมามันเป็นตัวเลขที่เขาไปเอาหลายสิ่งหลายอย่างมาปนเปกันเท่านั้นเอง ตอนนี้เราได้โกงไหมประเด็นอยู่ตรงนี้ เราไม่ได้ยินดีชดใช้แต่ไม่มีการโกง หมายถึงว่าเงินทุกคนที่เอามาเราต้องคืน แล้วเกี่ยวกับวัดบางม่วงไหม 1.เงินทำบุญตนไม่จับ 2.เงินวัดตนไม่ยุ่ง 3.พอเวลาตนเรี่ยไรสังเกตุกันไหมซื้อวัดบางม่วงหมด ไม่เคยเอาบัญชีส่วนตัวมาเรี่ยไร ที่ยืมคือยืมส่วนตัวไม่เกี่ยวกับวัด เขาเชื่อใจเราเพราะคนที่เอาไปเขาบอกเขาจะมีดอกเบี้ยให้ ตนเป็นคนกลาง จะบิทคอยน์ หรือแชร์ลูกโซ่มั้ย บอกเลยไม่มีไม่เกี่ยว
นายวิฑูรย์ กล่าวต่ออีกว่า มีหมายเรียกมาเราก็ไปชี้แจง เนื่องจากว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลายๆคนได้รับบางส่วนไปเป็นที่เรียบร้อย ยืนยันไม่มีการเล่นพนันออนไลน์ บวชมา 10 ปีแล้ว แต่มาพลาด 2 ปีหลัง ไปช่วยคนแล้วตนเป็นคนกลางที่ช่วยเขา ถามว่าจะกลับไปบวชมั้ยก็ตอบไม่ได้ต้องดูว่าสังคมให้อภัยมั้ย ญาติโยมให้อภัยมั้ย คนที่ไปยืมเงินมาก็มีการพูดคุยตลอดเวลาทุกคน ปัญหามีอย่างเดียวคือตนได้เงินกลับมาไม่เคยตรงเวลา ปัญหามีแค่นี้ ไม่ใช่มีการฉ้อโกง ไม่ได้มีการเอาเงินวัด ตัวเลขที่เขาเมคกันมาเขาเมคได้ ข่าวลือมีได้ ตนดีใจนะที่มาถาม เรื่องมันจะได้จบ ถ้าตนจะหนีคงไม่อยู่วัดหรอก ตนเป็นคนกลางตนต้องรับผิดชอบ วันที่ตนสึกคนที่เอาเงินไปใช้เอาไปดำเนินการเขาร้องไห้เลย เขาทำเรื่องให้จบให้ได้ถึงบอกภายในเดือนนี้ทุกคนได้รับเงินจนหมด แล้วบอกเลยว่าย้ำว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวัดบางม่วง แต่ผิดตรงที่ตนเอาเขามาแล้ว ตนแก้ปัญหาไม่ทันเวลาทำให้คนเดือดร้อน อันนี้ตนต้องรับผิด เพราะฉะนั้นตนลงโทษตัวเองไม่รอให้ใครมาลงโทษ สึกเอง หลวงพ่อไม่ได้สั่งด้วย ตนรับผิดชอบ ตนเดินเขาโบสถ์ลาสิกขาเลยเพราะทุกคนเข้าใจผิดหมดแล้ว มาถึงจนกระทั่งมีพนันออนไลน์ ไม่เอาแล้วอย่าให้พระเสีย เอาพระตายไปดีกว่า เพราะถ้าเกิดตนผิดแล้วไม่ได้เงิน นั่นเป็นฉ้อโกง แต่ตอนนี้ไม่ใช่ตอนนี้คือมีแต่การเตรียมคืน เพียงแต่รายละเอียดปลีกย่อยคืนเสร็จแล้วตนจะมาอธิบายให้ฟัง อยากฝากถึงคนที่ตนยืมเงินมา คำเดียว ขอโทษ ตนไม่ไปไหนและบอกตามตรงว่าเสียใจกับการกระทำของตนเองที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน แต่ถามว่าเป็นประเด็นใหญ่ไหมตอบเลยว่าไม่ใช่ แต่ข่าวลือพระพุทธเจ้าท่านสอนตลอดเวลาว่าผู้คนตื่นข่าว 10 ประการ คือฟังการแล้วจับไปรวมกันเป็นเรื่องปกติ
ด้านพระธรรมนูญ สุเมโธ อายุ 48 ปี (พระลูกวัด) กล่าวว่า ตนรู้จักกับพระองค์นี้นานแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าแกจะเป็นอย่างนี้ อยู่ด้วยกันมาตั้งนานแล้ว 4-5 ปี ปกติก็คุยกันปรึก ษากันแต่ไม่รู้ว่าเรื่องเงินทองเดือดร้อนหรือไม่ เดือดร้อนแกก็มาขอยืมพระก็ให้ เห็นว่าอยู่ด้วยกัน พระก็ไม่เคยถามว่ายืมไปทำอะไร ยืมไปครั้งแรก 35,000 บาท แล้วมายืมอีก 20,000 บาท เอาคืนมา 20,000 บาท เหลืออีก 35,000 บาท เขาก็มาขอยืมไปทำธุระแล้วเดี๋ยววัน 2 วัน เอาเงินมาคืน ครั้งที่ 2 ก็ยืมเอาไปทำธุระ เลยให้ไปเพราะเห็นอยู่ด้วยกัน นับถือแกอยู่ ไม่แน่ใจว่าพระลูกวัดองค์อื่นโดนไหมเพราะเรื่องส่วนตัวพระไม่ยุ่ง รู้สึกเสียใจเหตุการณ์นี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น มันเสียทั้งพระ เสียทั้งวัด ส่วนเงินที่เหลือเขาก็บอกว่าจะทยอยคืนให้ แล้วก็เงียบไป.
Discussion about this post