วันที่ 11 ก.พ. 66 ร.ต.อ ศิริชัย สิงห์สนั่น รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองบัว อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ รับแจ้งจากชาวบ้านพบศพพระภิกษุมรณะภาพอยู่กลางทุ่งนาบ้านงิ้ว ต.สระกุด อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ จึงประสานหน่วยกู้ภัยวังกรูดสตึก อ.สตึก ร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนา เขตรอยต่อระหว่าง อ.สตึก บุรีรัมย์ กับ อ.ชุม พลบุรี จ.สุรินทร์ ห่างจากหมู่บ้านคนประมาณ 2 กม.พบศพพระบุญเลิศ ฐานุตคโร อายุ 69 ปี พระลูก วัดอัมภารินทร์ อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ในสภาพนอนหงายศพเริ่มเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นคาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 5 วัน ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายร่างกาย
นายดม (สงวนนามสกุล) อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 11 ต.บ้านยาง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ชาวบ้านที่พบศพพระบุญเลิศเล่าว่าพระบุญเลิศ ได้หายออกจากวัดไปหลายวันแล้ว ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ไปตามที่บ้านก็ไม่เจอ ต่อมากำนันได้ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านในหมู่บ้านช่วยกันออกค้นหา เพราะเกรงจะเป็นอันตราย สุดท้ายมาพบเป็นศพดังกล่าว
ด้านนางสุดใจ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี น้องสะใภ้พระบุญเลิศ เล่าว่าปกติพระบุญเลิศ จะเดินเท้าลัดทุ่งนาจากวัดที่จำอยู่ มาหาหลานชายอายุ 21 ปี อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งในเขตจังหวัดสุรินทร์ ระยะทางประ มาณ 2 กม.เป็นประจำเพื่อมาถามสาระทุกข์สุขดิบและเรื่องการสอบเป็นนักเรียนพลตำรวจที่ จ.นครราชสีมา ของหลาน
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ชาวบ้านเขต อ.พุทไธสง จ.บุรี รัมย์ ประกาศตามหาพระวัย 69 ปีที่หายไปนาน 5 วันไม่พบ สุดท้ายมาพบกลายเป็นศพกลางทุ่งนา เขต อ.ชุมพบบุรี จ.สุรินทร์ คาดเสียชีวิตระหว่างเดินเท้าไปหาญาติที่เคยไปประจำ และมาเผชิญกับอากาศร้อนจัดกลางทุ่งนาแล้วช๊อคมรณะภาพกลางทางส่วนสาเหตุการเสียชีวิตคาดว่าพระบุญเลิศ น่าจะทนกับอากาศที่ร้อนจัดในตอนกลางวันไม่ได้ ทำให้เกิดอาการช็อก แล้วไม่มีใครมาช่วย ประกอบกับ ท่านมีโรคประจำตัวคือโรคความดัน และโรคเบาหวาน ทำให้เป็นสาเหตุมรณภาพลง ดังกล่าว.
Discussion about this post