เก๋งซิ่งชน จยย.ขาดครึ่ง หนุ่มช่างซ่อม จยย.ดับคาที่

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 14 ก.พ. 66 ร.ต.ท รังสรรค์ ห่วงรัก รอง สว.(สอบสวน) สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์ชนกับรถ จยย.มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนปทุมธานี-รังสิต ม.1 ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี (ก่อนถึงแยกวัดเสด็จ) หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จราจรและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จากนั้นจึงได้ประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม

ในที่เกิดเหตุที่พงหญ้าริมถนนพบรถเก๋งมาสด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กภ-2157 กรุงเทพมหานคร สภาพรถด้านขวาฝั่งคนขับอัดชนกับเสาไฟฟ้าจนเสาไฟฟ้าหักติดคาครึ่งท่อน้ป็นเหตุให้ไฟส่องสว่างดับ รถพังบุบรอบคันหลังคายุบ ภายในรถพบคนขับทราบชื่อนายณรงค์ สุขใจ อายุ 30 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยติดอยู่ที่เบาะคนขับเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงช่วยกันนำตัวออกมาแล้วส่ง รพ.กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส นอกจากนี้ที่กลางถนนพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายทราบชื่อต่อมาคือนายบารมี พรหมแทนสุด หรือ”อั๋น” อายุ 20 ปี สภาพศพแขนขาหัก ศีรษะแตกมีเลือดไหลนองพื้น และห่างไปประมาณ 60 กว่าเมตร พบรถ จยย.ยามาฮ่า สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน ฬนจ-450 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายสภาพพังยับเยินรถหักครึ่งท่อน เศษชิ้นส่วนรถกระจายเกลื่อนถนน

นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุมีนายณัฐพงศ์ ระรื่นรมย์ อายุ 18 ปี เพื่อนคนตาย ให้การว่า ตนและผู้ตายเป็นช่างซ่อมรถ จบย.อยู่ที่ร้านในซอยวัดเสด็จ ซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้โทรศัพท์มาบอกตนว่ารถเสียอยู่แถวปั๊มน้ำมัน ปตท.ย่านบางพูน ตนจึงขับรถ จยย.อีกคันมายันรถให้เพื่อจะกลับมาที่ร้าน และขณะยันมาถึงใกล้แยกวัดเสด็จ ได้มีรถเก๋งคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วและพุ่งชนท้ายรถเพื่อนตนอย่างแรงจนรถ จยย.กระเด็นไปไกลร่วม 100 เมตร และเพื่อนตนก็กระเด็นตกรถเสียชีวิตคาที่ ส่วนรถเก๋งตกพลิกคว่ำ 1 ตลบและไปอัดชนกับเสาไฟฟ้าจนเสาหักครึ่งท่อน หลังเกิดเหตุตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจและโทรไปหาแม่เพื่อนตน

ต่อมาได้มี น.ส.แก้วตา โพธิ์แก้ว แม่ผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่เกิดเหตุเมื่อเห็นสภาพศพลูกชายถึงกับเข้ากอดศพลูกร้องไห้จนแทบจะเป็นลม

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุ และจากการสอบพยานในที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวได้ขับแข่งตีคู่กันมากับรถกระบะอีกคัน และขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะพุ่งชนรถ จยย.ที่มีเพื่อนยันมาจนทำให้มีผู้เสียชีวิต โดยจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบอีกครั้ง และจะได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์คนขับรถเก๋งด้วย เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้มูลนิธิฯ นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์การเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / รายงาน