วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 14.00 น. ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสาขาท่าวังผา ถ.น่าน-ทุ่งช้าง ต.ท่าวังผา อ.ท่าวังผา นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย นายสุทัศน์ จินตเวชศาสตรื นายอำเภอท่าวังผา นายวรวิทย์ อินต๊ะใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน น.ส.พัฒนา ไวลิม ผช.หน.สนง.ปภ.จ.น่าน นายจำรัส อินแก้ว รก.หน.ปภ.จ.น่าน สาขาเชียงกลาง และฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย ร่วมติดตามการจ่ายเงินในครั้งนี้ด้วย ร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 โดยรัฐบาลได้โอนเงินเข้าบัญชีผ่านระบบ PromptPay ซึ่งจังหวัดน่าน มีผู้ประสบอุทกภัยที่เข้าเงื่อนไขตามหลักเกณณ์ฯ จำนวน 2,595 ครัวเรือน ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าวังผา 2,185 ครัวเรือน อำเภอเมืองน่าน 234 ครัวเรือน และอำเภอปัว 176 ครัวเรือน วงเงินให้ความช่วยเหลือรวม 12,975,000 บาท
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2565 ตามมติ ครม. ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเข้าสู่ฤดูฝนตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.65-28 ต.ค.65 ในส่วนของจังหวัดน่านก็ได้เกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะวันที่ 11-15 สิงหาคม 2565 จังหวัดได้รับผลกระทบจากพายุมู่หลาน ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ที่อยู่อาศัย รวมทั้งสิ่งสาธารณประโยชน์เป็นจำนวนมาก รัฐบาลได้ตระหนักและได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
โดย ครม. มีมติ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 เห็นชอบการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยเป็นกรณีพิเศษ และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2565 กรณีที่อยู่อาศัยประจำ อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังตั้งแต่ 1 วัน (ครบ 24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หรือที่อยู่อาศัยถูกน้ำท่วมขังเกินกว่า 7 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท กรณีที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ให้ความช่วยเหลือครัวเรือน ละ 7,000.- บาท และกรณีที่น้ำท่วมขังเกินกว่า 60 วัน ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท ในส่วนของจังหวัดน่าน ได้มีผู้ประสบภัยที่เข้าหลักเกณฑ์เป็นกรณีที่ได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท ซึ่งได้ผ่านขั้นตอนกระบวนการตั้งแต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจข้อมูล จัดทำประชาคมระดับหมู่บ้าน ผ่านความเห็นชอบจาก ก.ช.ภ.อ. และ ก.ช.ภ.จ. ทั้งนี้จังหวัดได้ส่งข้อมูลให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อส่งเอกสารให้ธนาคารออมสินโอนเงินเข้าบัญชีผู้ประสบภัยในวันนี้ จำนวน 2,595 ครัวเรือน รวมเป็นเงิน 12,975,000 บาท ดังนี้
- อำเภอท่าวังผา จำนวน 2,185 ครัวเรือน เป็นเงิน 10,925,000 บาท
- อำเภอเมืองน่าน จำนวน 234 ครัวเรือน เป็นเงิน 1,170,000 บาท
- อำเภอปัว จำนวน 176 ครัวเรือน เป็นเงิน 880,000 บาท
Discussion about this post