เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 66 นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประ จวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะและถวายพานพุ่มดอกไม้สด เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนา รายณ์มหาราช เพื่อสดุดีเทิดพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ รวมถึงแสดงความจงรักภักดี เทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยมี ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์, ผู้บัญชาการโรง เรียนนายสิบทหารบก ค่ายโยธินศึกษามหามงกุฎ, ผู้บัญชาการศูนย์การกำลังสำรอง,หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนต่างๆ ตลอดจนสมาคมแม่บ้านทหารบก เข้าร่วมในพิธี ณ อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสด็จพระบรมราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปีวอก (ตรงกับวันที่ 16 ก.พ.2175) เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าปราสาททองกับพระนางศิริธิดา ต่อมาภายหลังยกเป็นพระราชเทวี และมีพระขนิษฐาร่วมพระมารดาคือสมเด็จเจ้าฟ้าศรีสุพรรณ กรมหลวงโยธาทิพ หรือพระราชกัลยาณี พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติต่อจากพระศรีสุธรรมราชา เมื่อเวลาสองนาฬิกาวันพฤหัสบดี แรม 2 ค่ำ เดือน 12 จุลศักราช 1018 ปีวอก ตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม 2199 มีพระนามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่าสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา ขณะทรงมีพระชนมายุ 25 พรรษา หลังจากประทับในกรุงศรีอยุธยาได้ 10 ปี พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้สร้างเมืองลพบุรีขึ้นเป็นราชธานีแห่งที่ 2 เมื่อปีพุทธศักราช 2209 และเสด็จไปประทับที่ลพบุรีทุกๆปี ครั้งละเป็นเวลานานหลายเดือน พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 11 ก.ค.2231 ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรย์พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี รวมครองราชย์สมบัติเป็นเวลา 32 ปี มีพระชนมายุ 56 พรรษา พระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระองค์ที่ได้ทรงกระทำไว้มีอเนกประการเหลือคณานับ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถอย่างยิ่ง ทรงสร้างความเจริญรุ่งเรืองและความยิ่งใหญ่ให้แก่กรุงศรีอยุธยาเป็นอย่างมากทั้งด้านการต่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มีการติดต่อทั้งด้านการค้าการทูตกับประเทศต่างๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น อิหร่าน อังกฤษ และฮอลันดาพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ ที่เลื่องลือพระเกียรติยศในพระราโชบายทาง การคบค้าสมาคมกับชาวต่างประเทศ ทรงรักษาเอกราชของชาติให้พ้นจากการเบียดเบียนของชาวต่างชาติและรับผลประโยชน์ทั้งทางวิทยาการและเศรษฐกิจที่ชนต่างชาตินำเข้ามา นอกจากนี้ยังได้ทรงอุปถัมภ์บำรุงกวี และงานด้านวรรณคดี อันเป็นศิลปะที่รุ่งเรืองที่สุดในยุคนั้น ด้วยพระปรีชาสามารถดังที่บรรยายมาแล้วสมเด็จพระนารายณ์ จึงได้รับการถวายพระเกียรติเป็นมหาราชพระองค์หนึ่ง.
Discussion about this post