เมื่อวันที่ 16 ก.พ.65 ร.ต.ท.หญิงภคนันท์ ศรีนันทพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุผู้หญิงถูกฆ่ามัดมือ ตายภายในบ้านบริเวณหมู่ที่ 7 บ้านพรุเตียว ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ สงพะโยม รอง ผบก.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.เจษฎา จันทร์พุ่ม ผกก.สภ.ตะกั่วป่า พ.ต.ท.บัณฑิต หัตถพิถีพันธุ์ รอง ผกก.ปป.สภ.ตะกั่วป่า พ.ต.ท.สราวุธ สูงสง่า พนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พ.ต.ท.อนันต์ เกื้อบุญแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.ตะกั่วป่า พ.ต.ท.บพิตร หมึกดำ สว.สส.สภ.ตะกั่วป่า ร.ต.อ.มณฑล ใจรังสี รอง สว.สส.สภ.ตะกั่วป่า พ.ต.ท.หญิง นายิกา งามประดิษฐ์ รอง ผกก.พิสูจน์หลักฐานจังหวัดพังงา นายนันทศักดิ์ เอียดตรง ปลัดอำเภอตะกั่วป่า ด.ต.ณรงค์ เทียบพุฒ ด.ต.โกศล คงแก้ว ชุดสืบสวนจังหวัดพังงา นายสมศักดิ์ ประเสริฐพรพงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมูที่ 7 ต.บางนายสี เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่านายสำรวย (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี 8/29 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า สามีผู้ตายนั่งร่ำไห้อยู่บริเวณข้างบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีญาติๆและชาวบ้านกำลังยื่นพูดคุยตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ พร้อมพาเจ้าหน้าที่ไปดูศพภรรยาชื่อนางราตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี คนตายอาชีพหาของเก่า อยู่ภายในห้องนอนสภาพศพนอนคว่ำหน้ามือทั้งสองข้างถูกมัดด้วยผ้าเช็ดตัวสีชมพูมีเลือดออกทางจมูก ทางปาก คาดว่าถูกทำร้ายร่างกายขาดอากาศหายใจเสียชีวิตมาตราและมีกระเป๋าสะพายที่เก็บเงินหายไปจากตัวผู้ตายมีจำนวนเงิน 24,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เร่งลงพื้นที่เพื่อติดตามตัวคนร้าย พร้อมกับตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ส่วนศพผู้ตายทางกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดพังงา เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมฆาตะกั่วป่า ได้ชันสูตรพลิกศพพบทางนายสำรวย (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี 8/29 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า สามีผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อตอนค่ำที่ผ่านมาได้ออกไปหาของเก่ากับภรรยา และนายหรั่ง นาย อุดมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี พร้อมลูกสาวนายหรั่ง จำนวน 4 คน ด้วยรถยนต์กระบะโตโยต้า สีเขียว ได้เดินทางไปหาของเก่าที่บ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง ซึ่งห่างจากบ้านที่เหตุประมาณ 10 กิโลเมตรหลังจากหาของเก่าเสร็จกำลังจะเดินทางกลับรถกระบะเกิดมีปัญหาแบตเตอรี่หมด สตาร์ไม่ติด ทางนายหรั่ง เอ๋ยปากว่าตนเองจะเดินไปเอารถสามล้อพ่วงข้าง ที่บ้านผู้ตายเพื่อมารับภรรยาของนายสำรวยฯและจะไปเอาแบตเตอรี่มาซ้อมรถ เมื่อนายหรั่งไปเอารถสามล้อ มาได้ก็ได้เดินทางไปรับนางราตรี คนตายกลับมาที่บ้านเมื่อเวลา 23.00 น. แต่รับปากว่าจะมารับนายสำรวย วงกลาง ที่รออยู่กับรถกระบะที่บ้านน้ำเค็ม แต่ก็ไม่ได้มารับจนนายสำรวยฯนอนหลับที่รถจนถึงช่วงเช้าไม่มีใครมารับ และได้เดินกลับมาบ้านพร้อมเข้าไปดูภรรยาในบ้านและตะโกนเรียกภรรยาแต่ไม่ได้ยินเสียง เมื่อเข้าไปดูในห้องนอนพบว่าภรรยา นอนคว่ำหน้าอยู่ในห้องคิดว่าภรรยาหยอกเล่น และตนเองได้ไปจับตัวภรรยาแต่ไม่รู้สึก ตัวเย็น พบว่าที่มือมีผ้าขนหนูสีชมพู่มัดมืออยู่ทั้ง 2 ข้างและที่บริเวณใบหน้า จมูก ปาก มีเลือดไหลไม่รู้สึกตัวเสียชีวิตไปแล้ว จึงได้ตะโกนเรียกนายหรั่ง ที่ห้องนอนอยู่ติดกันในบ้านแต่ไม่มีใครตอบ จนต้องเดินไปบอกญาติๆ เพื่อนบ้านให้โทรแจ้งตำรวจไปตรวจสอบ นอกจากนี้พบว่ารถสามล้อพ่วงข้าง หายไปพร้อมกับนายหรั่งและลูกสาวติดต่อไม่ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่านายหรั่ง ขับสามล้อพ่วงข้างหนีหายไปเมื่อช่วงตี 3 ของวันที่ 16 ก.พ. 66 คาดว่าหลังจากนายหรั่งก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ไปพร้อมทรัพย์สินที่ได้ไปจำนวนเงิน 24,000บาท
สัมภาษณ์ ทางนายสมศักดิ์ ประเสริฐพรพงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมูที่ 7 ต.บางนายสี กล่าวว่า นายหรั่ง เป็นเด็กในหมุ่บ้านของตนเองมีนิสัยเกเรไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งเคยติดคุกมาแล้วคดียาเสพติด ซึ่งต่อมาหลังจากออกจากคุกได้ก็มาเก้บขยะขาย มาเจอนายสำรวยฯ จึงได้ชวนมาอยู่ด้วยที่บ้านเพราะเกิดการสงสารที่นายหรั่ง มีลูกสาว อายุประมาณ 10 ขวบ อยู่ด้วยทราบว่านายหรั่งมาอยู่ได้ไม่ถึง 10 วัน และทราบว่าผู้ตายไปกู้เงินกองทุนหมู่บ้านจำนวน 60,000 บาท ซึ่งนายหรั่งทราบดีว่าคนตายมีเงินติดตัวอยู่ตลอด อย่างไรก็ตามต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนจับคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.อ.เจษฎา จันทร์พุ่ม ผกก.สภ.ตะกั่วป่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตามหาตัวนาย อุดมศักดิ์ โล่หนารายณ์ อายุ 44 ปี หรือ หรั่ง ล่าสุดพบภาพกล้องวงจรปิดจับภาพนายหรั่งขับรถพ่วง 3 ล้อหลบหนีที่บันทึกได้ตามเส้นทางถนนเพชรเกษมสายตะกั่วป่า – ตลาดบางม่วง พร้อมกับลูกสาว และคาดว่าหลบหนี้อยู่ในพื้นที่ซึ่งใครที่พบตัวนายหรั่ง และลูกสาวให้แจ้งมาได้ที่ สภ.ตะกั่วป่า โดยด่วน
Discussion about this post