สกลนคร พ่อหอบลูกร้องศูนย์ดำรงธรรม ถูกลวงไปให้โจ๋รุมฟัน 4 เดือนคดีไม่คืบ

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดสกลนคร นายอุดร นัยนิตย์ อายุ 42 ปี
นำ นายเอกสิทธิ์ ตั้งจิตเพียรโชค อายุ 24 ปี ชาวบ้านดงยอ ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร ได้นำเอกสารไปยื่นหนังสือร้องเรียน ภายหลังลูกชายถูกลวงออกไปทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 แต่คดีไม่คืบหน้า อยากให้ จนท.ตำรวจ สภ.ขมิ้น เร่งรัดดำเนินการเอาตัวคนผิดมาลงโทษ

นายอุดร นัยนิตย์ กล่าวว่า ตนนั้นได้พาลูกชายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ขมิ้น อ.เมืองสกลนคร ว่า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 19.00 น.ขณะลูกชายตนกำลังนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านได้มีหญิงสาวรายหนึ่งที่เป็นคนรู้จักสมัยเป็นนักศึกษา ได้ทักแชทข้อความมาหาลูกชาย จน เวลา 23.00 น.ลูกชายตื่นขึ้นมาเห็นแชทข้อความบอกว่าเพื่อนกลับหมดแล้วอยากให้ไปรับที่อ่างเก็บน้ำห้วยทราย ต.ขมิ้น อ.เมือง จึงขับรถ จยย.ไปหาแต่เมื่อไปถึงไม่พบตัวหญิงสาวและติดต่อไม่ได้

ระหว่างนั้น มีวัยรุ่นประมาณ 4-5 คน ที่ไม่รู้จักกันถืออาวุธมีดสปาต้าและไม้ เข้ามาทำร้าย ลูกชายตนพยายามวิ่งหนีแล้วไม่พ้นถูกรุมตีและฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส จนมีชาวบ้านตะโกนห้ามวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวจึงหลบหนีไป ต่อมาหน่วยกู้ภัยจึงมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งลูกชายได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเหวอะหวะเป็นบาดแผลฉกรรจ์เย็บถึง 7 เข็ม และบาดเจ็บข้อมือด้านขวาแตกมีอาการชาไปถึงไหล่ หลังเกิดเรื่องลูกชายต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานกว่า 10 วัน ตนได้เร่งดำเนินการในเรื่องคดี จนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ซึ่งเป็นวัยรุ่นอยู่ในหมู่บ้านหนองเม็ก ต.นาหัวบ่อ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร รับเป็นผู้ก่อเหตุคนเดียว และครอบครัวผู้ก่อเหตุพยายามไกล่เกลี่ยเรื่องค่าสินไหมมาแล้ว 1 ครั้งแต่ไม่ลงตัว เมื่อนัดอีกครั้ง คู่กรณีก็ไม่มาเจรจา แล้วเงียบหายไป แต่ในส่วนเรื่องคดี ตนได้ติดตามเรื่องหลายครั้งจนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะยังเห็นผู้ก่อเหตุลอยนวลเวลาล่วงเลยมานาน 4 เดือนแล้วคดีไม่คืบ จึงมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม อยากให้ จนท.ตำรวจเร่งรัดติดตามจับกุมตัวมาดำเนินดดี

นายเอกสิทธิ์ ตั้งจิตเพียรโชค อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองนั้นยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องชู้สาวกับหญิงสาวดังกล่าว เป็นเพียงคนเคยรู้จักกันสมัยเป็นนักศึกษา ก่อนแยกย้ายกันไป และติดต่อกันอีกครั้งเพียงเพื่อนที่เคยรู้จักกันไม่ถึงอาทิตย์ ก่อนที่จะถูกลวงออกมาทำร้าย อันนี้ตนไม่มั่นใจว่าแชทที่ทักมานั้นหญิงสาวเจ้าของแชทจะรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ หรือคนก่อเหตุนำโทรศัพท์ไปใช้ แต่ก็ไม่น่ามาทำร้ายกันถึงขนาดนี้ดีที่ไม่เสียชีวิต ทุกวันนี้ยังหวาดผวากับเรื่องนี้อยู่เพราะผู้ก่อเหตุยังไม่ถูกดำเนินคดี และยังมีอาการปวดหัวและชาที่แขนขวาทำงานลำบากจากผลข้างเคียงอาการบาดเจ็บ ซึ่ง นายสังสรรค์ อุ่นคำ ผอ. ศูนย์ดำรงธรรม รับเรื่องไว้และจะได้สอบถามไปยังตำรวจ สภ.ขมิ้น ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด.

วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร