จากกรณีนายปอ กับโรเบิร์ต กลับคำรับสารภาพคดีแตงโม ศาลนัดฟังคำพิพากษา 10 พ.ค.66 นี้ ส่วนจำเลยที่เหลืออีก4 คนยังปฎิเสธแยกสำนวนฟ้องใหม่นัด 28 เม.ย.
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกรณีดังกล่าวกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ กล่าวว่าเดิมทีตนไม่คิดว่าทั้ง 2 คนจะสาร ภาพไว การรับสารภาพก็เป็นไปตามในคดีที่อัยการกับตำรวจสั่งฟ้องตามข้อหา ซึ่งเป็นข้อหาไม่ได้ร้ายแรง ข้อหาประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ให้การเท็จ ถ้ารับสารภาพก็ได้รับการลดโทษกึ่งหนึ่ง เพราะฉะนั้นเขาก็เยียวยาแม่แตงโมไปแล้ว เงินสด 2 ล้าน จ่ายอีกเดือนละ 30,000 บาท และอื่นๆอีกต่างหาก ถ้าแม่แตงโมไม่ติดใจ เมื่อเขาสารภาพแล้วต้องดูว่าศาลจะวินิจฉัยว่ายังไง รอลง อาญามั้ยหรือมีโทษจำคุกเลย เพราะอัตราโทษมัน 10 ปี อาจจะติดคุกซัก 5 ปี อาจจะไม่รอลง อาญา ไม่แน่ใจ ไม่อาจไปล่วงล้ำดุลพินิจของศาล อันนี้เรียกว่าไม่มีการต่อสู้ดีกว่า รับสารภาพเลย ส่วนอีก 4 คน ก็ดูก่อนว่าการรับสารภาพนี้จะโดนอัตราโทษเท่าไหร่มากกว่า เหมือนส่ง 2 คนนี้มาชิมลางก่อน และดูว่าระหว่างกำลังจะสู้ต่อมันสามารถยอมความรับสารภาพระหว่างสืบพยานศาลชั้นต้นได้ ปอกับโรเบิร์ตเป็นตัวอย่างของ 4 คนที่เหลือ ถ้ายอมความไปแล้วติดคุกเลยสี่คนที่เหลือก็คงไม่ยอมต้องสู้ต่อ ถ้ารับสารภาพแล้วมันไม่ต้องไปอุทธรณ์หรือยื่นฎีกาแล้ว เพราะฉะนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้อย่าเพิ่งชะล่าใจ พฤษภานี้จะตัด สินแล้วว่าจำคุกหรือรอลงอาญา
ส่วนในมุมของตนที่แม่แตงโมได้กล้องหน้ารถ จริงๆกล้องหน้ารถมันอยู่ในสำนวนมาตั้งนานแล้ว กล้องหน้ารถเป็นช่วงสนทนากันซึ่งขาไปไม่มีอะไร แต่ขากลับจะมีอะไรหรือไม่มีถือเป็นพยานบอกเล่า พยานที่สำคัญจริงๆที่แม่แตงโมคิดจะต่อสู้แม่ต้องเป็นโจทย์ร่วม นำพยานสืบเอง เช่น พยานเรื่องฟันของแตงโมว่าสมบูรณ์มั้ย ต้องหาคนเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมมา และหาผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชเกี่ยวกับกะโหลกศีรษะว่าทำไมกรามขวาแตงโมบิ่นเพราะอะไร อีกส่วนนึงคือสภาพฝ่าเท้าของแตงโมตอนที่ตรวจสอบแล้วมีตะปูทิ่มมั้ยตรงเท้าขวา ส่วนบาดแผลอื่นๆควรให้หมอธวัชชัยหรือคุณหมอพรทิพย์มาเป็นพยานอีกที ถ้าคิดจะสู้จริงๆต้องเป็นแบบนั้น ใช้หมายเรียกของศาล ตรวจสอบว่า GPS ของเรือเป็นยังไงและ GPS ของมือถือแต่ละคนเป็นยังไง การสนทนาในมือถือก่อนเกิดเหตุครึ่งชั่วโมง และหลังเกิดเหตุ 3-4 ชั่วโมง มีการสนทนากันอย่างไรบ้าง ระหว่างคนบนฝั่งและคนบนเรือ ทีนี้จะได้หลักฐานพยานชัดเจน สมมุติถ้าจะสู้จริง ไม่ใช่แบบสู้ไปเจรจาไป โดยส่วนใหญ่พี่น้องประชาชนก็อยากรู้ว่าแตงโมตายเพราะอะไร ก็ยังไม่เชื่อว่าเป็นการฉี่แล้วตกน้ำตายเอง คุณแม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายแต่การจะเรียกร้องค่าสินไหม ควรเรียกในคดีอาญาจบแล้วและสู้จนสุดแล้ว ไม่ใช่เจรจาระหว่างทางแบบนี้ มันเหมือนกับว่าถ้าเขาให้แล้วเราถอนมันก็ไม่เหมาะสม แต่ถ้าคดีนี้มันไม่มีใครรู้ใครเห็นคุณแม่จะทำอะไรก็ได้ ประชาชนต้องการความจริง มันไม่ใช่เฉพาะคดีแตงโม ยังมีอีกหลายคดีที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมกับกระบวนการยุติธรรม เพราะกระบวนการยุติธรรมตัดสินตามเท่าที่หลักฐานมี ตัดสินเท่าที่พนัก งานสอบสวนระบุว่าหลักฐานนั้นใช้ได้หรือไม่ได้เท่านั้นเอง
อยากให้คุณแม่ทำจิตใจดีๆและหาความจริงให้กับสัมคมว่าลูกคุณแม่ตายเพราะเหตุผลอะไร อย่าให้มันคลุมเครือ พยายามสู้ให้เต็มสูบจะเป็นสิ่งที่มันสำคัญ เพราะความจริงจะได้ไม่ตายไปพร้อมกับน้องเขา โดยที่ไม่มีใครรู้ใครเห็นว่าน้องเขาตายด้วยเหตุผลอะไร เรื่องนี้พี่จะฝากคุณแม่แตงโมไว้
รูปคดี ตอนนี้ยังไม่ออกมาเป็นรูปแบบใดแต่ถ้าพลิกล็อก อาจจะไม่รอลงอาญาคือติดคุกเลย ถ้าติดเลยเกมนี้ก็ยาว ทั้ง 4 คนที่เหลือต้องสู้กันให้เต็มที่ ส่วนคุณแม่เองก็ต้องสู้ ใช่ว่าจ่ายเงินแล้ว แต่ถ้าต้องติดคุกด้วยอีก 4 คนก็คงไม่จ่าย คุณแม่ก็ต้องสู้กันต่อยาวยาวจนกว่าจะถึงศาลฎีกา ต้องใช้เวลาอีกหลายปีด้วยกัน ถ้ารูปคดีออกมาว่ารอลงอาญาปอกับโรเบิร์ต อีก 4 คนก็จะรับสารภาพตาม แต่เราไม่สามารถก้าวล่วงได้ว่าศาลจะวินิจฉัยแบบไหน เนื่องจากอัตราโทษมันสูงประมาณ 16-17 ปีด้วยกัน ถ้าลดกึ่งหนึ่งก็ 7-8 ปี อย่างน้อย 4-5 ปีต่ำๆ ตามความรู้ที่ตนมี ตามประสบการณ์ที่มี เพราะฉะนั้น 4 คนนี้จะดูว่า 2 คนแรกโดนยังไงบ้างมากกว่าและถึงจะกำหนดเกมเพื่อการต่อสู้.
Discussion about this post