
วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ.66 คลินิกกฎหมายอุ้มผาง โรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก ได้รับแจ้งว่ามีนักเรียนจำนวน 23 ราย ซึ่งเป็นเด็กที่เกิดในประเทศไทยจากพื้น ที่พักพิงชั่วคราวบ้านนุโพ ถูกปฏิ เสธไม่รับเข้าเรียนต่อชั้นอนุบาล 1-2 ที่ โรงเรียนบ้านนุโพ ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตากเมื่อคลินิกกฎหมาย ฯ ได้ตรวจสอบ พบว่ามีการออก ประกาศสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต ๒ เรื่อง มาตรการเกี่ยวกับการรับนักเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึก ษาประถมศึกษาตาก เขต 2 ซึ่งสั่งห้ามมิให้โรงเรียนภายใต้สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประ ถมศึกษาตาก เขต 2 รับบุคคลดังต่อไปนี้เข้าเป็นนักเรียน กล่าวคือ 1 ผู้หนีภัยจากการสู้รบที่พักอาศัยและมีชื่ออยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว หรือศูนย์อพยพ 2 คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ถูกกฎ หมาย 3 บุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศเดินทางไปกลับบริเวณชายแดน
ด้านนายเวช ว่องไวพาณิชย์ นักกฎหมาย ประจำคลินิกกฎหมายอุ้มผาง โครงการสี่หมอชายแดนจ.ตากและ คณะทำงานคลินิกกฎหมายอุ้มผาง โรงพยาบาลอุ้มผาง ได้เปิดเผยว่า ในความเป็นจริงนั้นเด็กทุกคนสมควรที่จะได้รับการศึกษาที่เท่าเทียมกันในขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะอยู่ในสถานะใด อย่างกรณีเด็ก 23 คน ขณะนี้มีเพียงที่นี้แห่งเดียวที่ถูกไม่ให้เรียน การออกมาเรียกร้องเพียงแคขอให้เด็กได้รับการศึกษาเท่า นั้น ไม่ว่าเด็กเหล่านี้จะเป็นเด็กต่างด้าว เด็กอพยพก็อยากให้รับทุกคนเท่านั้นเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ
ด้านนายวัลลภ โตวรานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 เรื่องนี้ได้แจ้งให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตากทราบแล้ว กำลังให้หน่วยงานในพื้นที่ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า สาเหตุที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในเขตตำบลแม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตากไม่สามารถรับเด็กกลุ่มนี้ทั้ง 23 คนนั้นมาจากเหตุผลอะไร คงต้องตรวจสอบข้อมูลก่อน เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ชายแดน

สำหรับข้อความที่คลินิกลงในเพจนั้นพูดถึง การปฏิเสธไม่รับเด็กเข้าเรียนของโรงเรียนซึ่งอ้างตามประกาศสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 นั้น เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรม นูญแห่งราชอาณาจักรไทย และกฎหมายภายในที่เกี่ยวข้องอย่างชัดแจ้ง การกระทำดังกล่าวยังขัดต่อเจตนารมณ์ของประเทศไทยที่ประสงค์เปิดโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กทุกคนอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่คำนึงถึงสัญชาติ หลักฐานทางทะเบียน และสถานะทางกฎหมาย มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 อีกทั้งยังจะเป็นการละเมิดพันธ กรณีระหว่างประเทศที่ประเทศ ไทยเข้าร่วมเป็นภาคี อาทิ ปฏิญ ญาโลกว่าด้วยการศึกษาเพื่อปวงชน พ.ศ.2533 อนุสัญญาสิทธิเด็ก และอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ
จากเด็ก 23 คนในวันนี้ จะเพิ่มเป็นเด็กในสถานศึกษาสังกัดสำนัก งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 ทั้ง 5 อำเภอชายแดนจังหวัดตาก เด็กในอำเภอแม่สอด ซึ่งในสถานศึกษาบางแห่ง มีเด็กต่างชาติศึกษาอยู่มากกว่าร้อยละ 50 รวมถึงเด็กในพื้นที่อำเภอพบพระ แม่ระมาด และท่าสองยางซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ชายแดนไทยเมียนมาด้วยเช่นกัน เราทราบกันดีว่าจังหวัดตากเป็นพื้นที่ชายแดนที่มีความละเอียดอ่อนและมีความสำคัญมากในหลายมิติ แต่กลายเป็นว่าหน่วยงานที่มีหน้าที่คุ้มครองสิทธิทาง การศึกษาของประชาชนเช่นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาฯ กลับมีมุมมองความมั่นคงแบบเก่า ยิ่งกว่าหน่วยความมั่นคงของไทย ซึ่งเข้าใจมานานแล้วว่าชาตินิยมหรือสัญชาตินิยมไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ชายแดนและพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ได้
ประเทศไทยได้รับการชื่นชมในทางระหว่างประเทศในเรื่องการให้การศึกษาแก่ทุกคนอย่างไม่เลือกปฏิบัติเสมอมา ประกาศสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 ฉบับนี้ แสดงถึงความถดถอยในการดำเนินนโยบายเรื่องการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ อันส่งผลเป็นการทำลายภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ซึ่งบุคลากรทางการศึกษาของไทยสร้างสมมานานหลายสิบปี จึงขอเรียนถามท่านผู้บริหาร ว่าท่านเห็นด้วยกับการออกประกาศที่มีเนื้อหาเป็น การเลือกปฏิบัติเช่นนี้หรือไม่
Discussion about this post