เวลา 15.30 น. วันที่ 21 มีนาคม 2566 ร.ต.อ.วิฆเนตร ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดขอบ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง มีเหตุนำแบงก์ปลอมมาซื้อของที่ตลาดไทศิริ 3 บ้านวัวข้อง ต.บ้านเลื่อม จึงได้รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเต้าหน้าที่ตำรวจเขตงานาคา
ที่เกิดเหตุพบพ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้านควบคุมตัวนางประยงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ชาว จ.อุดร ธานี พร้อมของกลาง ธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท พริก มะนาว หอมแดง และมันเทศ อยู่ในถุง โดยมีนางนวน (สงวนนามสกุล) อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 4 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี แม่ค้าขายผักผู้เสียหายชี้ให้จับกุม จากการตรวจสอบเป็นธนบัตรแบงก์พันปลอมหมวด 7 ค 2020 527 หรือ 7 c 2020527 และยังมีขนาดเล็กกว่าธนบัตรแบงก์พันจริง พร้อมทั้งสีของธนบัตรยังมีความแตกต่างกัน
ส่วนนางประยงค์ เจ้าของแบงก์ปลอม ให้การว่า ขณะตนขี่รถจักรยานยนต์มาจากบ้าน เพื่อมาซื้อกับข้าวที่ตลาดไทยศิริ 3 บ้านวัวข้อง ระหว่างทางตนเห็นแบงก์พันตกอยู่กลางถนนหน้าร้านขายต้นไม้ก่อนถึงตลาด จำนวน 1 ใบ จึงจอดรถจักรยานยนต์ลงไปเก็บขึ้นมาดู โดยไม่รู้ว่าเป็นแบงก์ปลอม และคิดว่าเป็นแบงก์จริง คงเป็นของใครทำตกหล่นไว้ จึงนำไปซื้อสินค้าจากแม่ค้าในตลาด และคงใช้ซื้อกับข้าวกินได้อีกหลายวัน แต่พอแม่ค้าเดินกลับมาว่าเป็นแบงก์ปลอม หลังนำไปแลกเปลี่ยนกับเพื่อนแม่ค้าในตลาด ขอยืนยันว่าตนไม่รู้ว่าเป็นแบงก์ปลอม เพราะไม่เคยเห็นแบงก์ปลอมมาก่อน
นางนวน เล่าว่า ขณะนั่งขายผักอยู่ในตลาด ได้มีนางประยงค์ เดินมาซื้อมันเทศ พริก มะนาว หอมแดง รวมเป็นเงิน100 บาท นางประยงค์ได้จ่ายแบงก์ 1,000 บาท ตนจึงบอกว่าไม่มีเงินทอน ตนจึงได้นำเอาเงินไปแลกกับแม่ค้าด้วยกัน พอตนยื่นเงินให้ เพื่อนแม่ค้าจึงบอกว่าแบงก์ปลอม ตนจึงเรียกนางประยงค์ฯ ให้รอก่อน ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าในตลาดจึงฮือมาดู จากนั้นผู้ดูแลตลาดซึ่งมีปากกาตรวจแบงก์ปลอม นำปากกามาขีดแบงก์พบว่าเป็นสีดำ และยืนยันว่าเป็นแบงก์ปลอม หากเป็นแบงก์จริงหมึกจะไม่ติด จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
เบื้องต้นตำรวจจึงควบคุมตัวนางประยงค์ พร้อมแบงก์ปลอมของกลางไปโรงพัก นำส่งตำรวจสืบ สวนขยายผล เพื่อสืบสวนหาแหล่งที่มาของแบงก์ปลอม และสอบสวนว่ามีเจตนานำแบงก์ปลอมมาใช้หรือไม่ หากรู้ว่าเป็นแบงก์ปลอมและมีเจตนานำออกมาใช้ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ถ้าหากไม่มีก็จะปล่อยตัวไป.
Discussion about this post