ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุง รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.วันที่ 28 มี.ค.นี้ นางสมศรี (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ที่ 6 ต.เขาเจียก อ.เมืองพัทลุง ซึ่งเป็นพี่สาวของนางวิไลวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205 หมู่ที่ 5 ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ผู้ป่วยอัมพฤกษ์เดินไม่ได้ ญาตินำไปให้พระภูมิพัด (หลวงโม่ง) พระสำนัก สงฆ์บ้านยางยายขลุย ม.6 ต.ร่มเมือง อ.เมืองพัทลุง ทำการรักษาอาการ จนทำให้เกิดเป็นแผลตามร่างกาย และพี่สาวผู้ป่วยได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ศุภชัย หมื่นอักษร รอง สว.(สอบสวน) สภ. เมืองพัทลุง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นางวิไลวรรณฯได้ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์มาแล้วประมาณ 2 ปี ต่อมาได้รับทราบข่าวจากชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์ของพระภูมิพัด พระสำนักสงฆ์ดังกล่าวว่าพระรูปดังกล่าว สามารถมีสิธีรักษาโรคทั่วไปได้ทุกโรค ซึ่งนางวิไลวรรณฯก็ได้เกิดความเชื่อในเรื่องดังกล่าว จึงเข้าไปรักษาตัวกับพระรูปดังกล่าวเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 โดยพระรูปดังกล่าวมีวิธีรักษาโดยใช้ฆ้อนไม้ตอกไปยังท่อนไม้ซึ่งมีลักษณะเป็นหัวกลมคล้ายๆปากสติกส์ ตอกไปยังบริเวณลำตัวทั่งร่างกาย และให้คนป่วยนอนบนแคร่ไม้ที่มีความสูงประมาณ 50 ซ.ม.โดยด้านล่างมีไฟจากถ่านประมาณครึ่งกระสอบวางบนสังกะสี เพื่อให้ความร้อนถูกร่างกายแต่พี่สาวของตนไม่รู้สึกเจ็บเพราะเป็นอัมพฤกษ์
อย่างไรก็ตามจากการกระทำดังกล่าวทำให้นางวิไลวรรณฯมีแผลผุพองจากความร้อนทั่วร่างกายที่ได้รับความบาดเจ็บ โดยเฉาะแผ่นหลังและก้น ต้นขา น่อง จึงได้นำส่ง รพ.ศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้ทำให้นางวิไลวรรณฯได้รับบาดเจ็บ จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง และข้อหาที่ตรวจพบต่อไป.
Discussion about this post