

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้รับประ สานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ว่าจ้างบริษัท อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหา ชน) และบริษัท อินเตอร์ลิงค์ เพาเวอร์แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ดำเนินโครงการก่อสร้างสายไฟ ฟ้าเคเบิลใต้น้ำ ระบบ 33 KV 1 วงจรจากเกาะพะงันไปยังเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงิน 1,786 ล้านบาท สิ้นสุดสัญญาวันที่ 24 เมษายน 2567 สามารถรองรับโหลดสูงสุดได้ 24 เมกะวัตต์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความมั่นคงของระบบไฟฟ้าบนเกาะเต่าให้สามารถจ่ายไฟได้อย่างพอเพียง ลดปัญหาไฟฟ้าตก ไฟฟ้าดับ
นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ตามแผนโครงการจะเดินสายเคเบิลใต้น้ำ ขนาด 300 ตารางมิลลิเมตร (45 วงจร-กิโลเมตร) จากอ่าวหินงาม เกาะพะงัน ไปขึ้นที่บริเวณหาดเทียน เกาะเต่า พร้อมปรับปรุงระบบจำหน่ายหรืองานขยายเขตไฟฟ้าบนเกาะเต่า รวม 21 วงจร- กิโลเมตร และอุปกรณ์ยกระดับแรงดัน 2 ชุด ซึ่งสายเคเบิลใต้น้ำจะบรรทุกเรือมาถึงเกาะพะงันประมาณเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาเดินสายเคเบิลใต้น้ำประมาณ 6 เดือน ปัจจุบันเกาะเต่ามีผู้ใช้ไฟฟ้า 3,554 ครัวเรือน ส่วนราชการ 6 แห่ง กิจการขนาดเล็ก 641 แห่ง โรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ท 128 แห่ง และในพื้นที่มีแผนก่อสร้างโรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ท อีก 22 แห่ง
เมื่อมีการเดินสายเคเบิลใต้น้ำและขยายเขตไฟฟ้าแล้วจะรองรับการ เพิ่มขึ้นของโรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ทได้อีก 120 แห่งจะเป็นการสนับสนุน พัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเกาะเต่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำดีที่สุดอันดับต้นของโลก โดยปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละกว่า 550,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติร้อยละ90 ทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 63,000 ล้านบาท ซึ่งปี 2565 การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวมีนักท่องเที่ยวมาเยือน 260,000 คน คาดว่าในปี 2566 การท่องเที่ยวจะเติบโตกว่าอย่างแน่นอนและทำได้เข้า ประเทศจำนวนมาก เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย.
Discussion about this post