วันที่ 31 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (กลุ่มเสื้อเขียว) หมู่ที่ 10 บ้านคีรี ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ลงพื้นที่พบปะ เยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ แก่สมาชิกองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียง (กลุ่มเสื้อเขียว) ของจังหวัดนราธิวาส พร้อมทั้งรับทราบปัญหา อุปสรรค ในการดำเนินงาน รวมถึงแนวทางการปฏิบัติ ตลอดจนเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานตามแนวทางศาสตร์พระราชา ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด งานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรเครือข่ายในการขับเคลื่อนกิจกรรมด้านต่าง ๆ โดยมี พันเอกกำธร ศรีเกตุ รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 151 /รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ,นาย อิสมาแอ แต รองประธาน องค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส พร้อมทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า ตามที่ ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ได้มอบหมายให้ คณะทํางานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ คณะที่ 3 ดําเนินการจัดกิจกรรมการขับเคลื่อนศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยมีวัตถุประ สงค์เพื่อสร้างการรับรู้ และพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างประชาชนในพื้นที่กับภาครัฐ และติดตามความก้าวหน้าในการดําเนินงาน ของศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ด้วยการบูรณาการดําเนินงาน ร่วมกับส่วนราชการ ทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายทหาร พลเรือน รวมทั้งองค์กร ภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียง (กลุ่มเสื้อเขียว) พร้อมทั้งได้กําหนดเป้าหมายในการลงพื้นที่พบปะเยี่ยม เยียน ติดตามความก้าวหน้า ของการดําเนินการ รับฟังปัญหาข้อเสนอแนะ และความต้องการของสมาชิก โดยองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียง (กลุ่มเสื้อเขียว) เป็นแบบอย่างขององค์กรภาคประชาชน ที่ได้มุ่งเน้น ยืนหยัด น้อมนำเอายุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และ หลักปรัชญาเศรษฐ กิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนองค์กร ก่อให้เกิดเป็นประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนสามารถพัฒนา ยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ และงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อสังคม เป็นกระบวนการสร้างความรัก ความร่วมมือ และความสามัคคี ที่สามารถยึดเหนี่ยวจิตใจ ของการอยู่ร่วมกัน ในการสร้างสังคมให้เกิดความผาสุกได้ และเป็นพลเมืองในบริบทของสังคมพหุวัฒนธรรม กระตุ้นให้เกิดกลไก การจัดการ ชุมชน ตามธรรมชาติ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ศักยภาพผู้นํา และประชาชนให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ทรัพยากร ภูมิปัญญา และวิถีชุมชน รวมถึงการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ สู่แนวคิดความ เป็น “พลเมืองไทย ในบริบทสังคมพหุวัฒนธรรม” น้อมนําศาสตร์พระราชาและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางปฏิบัติอย่างจริงจัง จนก่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป.
Discussion about this post