ร่าง เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ถึงบ้านขาวสมุทรปราการแล้ว

ครอบครัว”อัศวเหม”ยืนยันจะเริ่มพิธีทางศาสนาในวันพรุ่งนี้ เผยนาย”วัฒนา”โทรมาให้กำลังใจยืนยันการเมืองกลุ่มสมุทรปราการ ก้าวหน้าเดินหน้าต่อแม้ขาดนายท้ายเรือคนสำคัญ

นายสุนทร ปานแสงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สมาชิกกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า กล่าวว่า ขณะนี้ ครอบครัวและคนใกล้ชิด ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ และจะเป็นพิธี ภายในของคนในครอบครัว ซึ่งคาดว่าร่างของนายชนม์สวัสดิ์จะเดินทางมาถึงบ้านพักในเวลา 14.00น.ของวันนี้

อย่างไรก็ตามวันพรุ่งนี้เวลา 16:00 น. จะมีพิธีรดน้ำศพอย่างเป็นทางการและจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพในเวลา 19.00 น.
ซึ่งจะมีพิธีสวดอภิธรรมเป็นเวลา 7 คืน ยกเว้น วันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน จากนั้นจะเก็บร่างของนายชนม์สวัสดิ์ไว้ ก่อน และจะรอฤกษ์สะดวกอีกครั้งว่าจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันใด อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างการดำเนินการขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ส่วน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะยังไม่เดินทางมาในวันนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานว่าจะเดินทางมาในวันใด ซึ่งพลเอกประวิตรขอให้ทุกฝ่ายมี ตั้งใจ ความสมัครสมานสามัคคี ที่จะดำเนินการกันต่อไป

ทั้งนี้นายสุนทรขอให้เลิกพูดถึงเรื่องของการเลือกตั้งได้แล้วเนื่องจากจะมีการรับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อกันในสัปดาห์หน้าแล้ว คงต้องเดินหน้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า เหมือนเรือลำหนึ่งที่ไม่มีคนคัดท้าย ในช่วงนี้นายสุนทรได้กล่าวด้วย น้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอ พร้อมยืนยันว่าทางกลุ่มจะไปในทิศทางเดียวกัน และเชื่อว่าทีมงานทุกคนจะเข้าใจว่านายชนม์สวัสดิ์ต้องการอะไร และจะดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของนายชนม์สวัสดิ์ พร้อมเปิดเผยว่าที่ผ่านมานายชนม์สวัสดิ์ขอให้ทุกคนทำงานเต็มความสามารถและเต็มที่ และเป็นเรื่องปกติที่ขณะนี้ทีมงานทุกคนเสียขวัญแต่ยืนยันว่าไม่เสียกำลังใจ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน

เมื่อถามว่าเมื่อนายชนม์สวัสดิ์ เสียชีวิตจะเสมือนคนคัดท้ายเรือไม่อยู่กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าจะเต็มที่เหมือนเดิมหรือไม่ นายสุนทร ยืนยันว่าจะดำเนินการเหมือนเดิมและเมื่อคืนนี้นายวัฒนาอัศวเหม บิดาของนายชนม์สวัสดิ์ได้มีการโทรติดต่อพูดคุยตลอดทั้งคืน ซึ่งท่านก็เป็นห่วง และเสียใจเพราะเป็นการสูญเสียลูกชายทั้งคนซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่ในเรื่องจิตใจนายวัฒนามีจิตใจที่เข้มแข็ง และได้ให้กำลังใจมาในการที่จะร่วมมือกันในการทำงาน ก็คือพวกเราก็พร้อมย้ำว่าหากพูดกันตรงตรงพวกเราก็ยังคงทำงานกันเหมือนเดิม ส่วนการจัดงานนายวัฒนาไม่ได้ย้ำอะไรเป็นพิเศษเพียงแต่กำชับให้ดำเนินการให้ดีที่สุดเพราะนายชนม์สวัสดิ์เป็นที่รักของประชาชนในพื้นที่

เมื่อถามว่าใครจะเป็นผู้มาสานต่อ งานทางการเมืองนายสุนทรกล่าวว่าทีมงานสมุทรปราการก้าวหน้าเคยสัญญากันไว้ว่าเราจะทำงานกันเป็นทีม ไม่มีใครแตกแถวไปไหนไปด้วยกันทำอะไรทำเหมือนกันหมด ยังคงสามัคคีกันเหมือนเดิมทุกอย่าง ส่วนด้านของนางสาวนันทิดา แก้วบัวสายภรรยาของนายชนม์สวัสดิ์ เมื่อคืนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลด้วยกันตลอดทั้งคืน

นายสุนทร ระบุด้วยว่าสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกี่ยวกับหัวใจล้มเหลวเส้นเลือดในหัวใจตันซึ่งเป็นข้อมูลที่ทางแพทย์ได้แจ้งไว้ รออยู่แล้วซึ่งไม่แน่ใจว่ามีโรคประจำตัวซึ่งเป็นโรคหัวใจอยู่แล้วหรือไม่แต่ที่ผ่านมานายชนม์สวัสดิ์เป็นคนที่แข็งแรงออกกำลังกายบ่อยจึงยังไม่ทราบว่าปัจจัยที่ทำให้เสียชีวิตเกิดจากอะไร เมื่อถามว่าญาติจะมีการแถลงข่าวหรือไม่นายสุนทรกล่าวว่าขณะนี้ยังไม่มีเพราะตอนนี้ทุกคนอยู่กันอย่างครอบครัว

สัมภาษณ์คนสนิท เอ๋ ชนสวัสดิ์ นาย จำเนียน แนบเกสร อายุ 86 ปี อดีตนักการเมืองท้องถิ่นและคนสนิท นายชนสวัสดิ์ อัศวเหม เปิดเผยว่า ตนทำงานการเมืองในพื้นที่มานานตั้งแต่รุ่นพ่อของนายชนสวัสดิ์ และทำงานร่วมกับ นายชนสวัสดิ์ มานานกว่า 20 ปี ครั้งแรกที่ท่านเริ่มเข้าทำงานการเมืองก็เริ่มจากการเป็นนายกเทศบาลนครสมุทรปราการ โดยท่านจะเป็นคนทำงานเอาจริงเอาจัง พัฒนาท้องถิ่นมาตลอดเป็นคนชอบคิดชอบทำ ทำให้ท้องถิ่นเจริญมาตลอดหลาย 10 ปี ส่วนการสูญเสียในครั้งนี้ตนถือว่าเป็นการสูญเสียนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ ครั้งใหญ่ที่สุดในการเมืองของสมุทรปราการ จากการสูญเสียในครั้งนี้ก็ยากที่จะหานักการเมืองที่เอางานเอาการมาพัฒนาท้องถิ่นให้ก้าวหน้าไปกว่านี้ก็คงหายาก เพราะท่านเป็นนักการเมืองที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดตั้งแต่ตนเล่นการเมืองมา เพราะประชาชนส่วนใหญ่ชอบการทำงานของท่าน
นอกจากนี้ท่านยังเป็นคนคิดริเริ่มที่จะทำกระเช้าลอยฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจากศาลากลางจังหวัดฯข้ามไปฝั่งพระสมุทรเจดีย์เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ท่านตั้งใจและอยากทำให้สำเร็จแต่ท่านก็มาจากไปเสียก่อน

ในขณะที่ กรุงศรีวิไล หรือ นายนที สุทินเผือก อดีต สสเขต 5 สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเพิ่งได้ร่วมงานครั้งสุดท้ายกับคุณเอ๋ช่วงเช้าจากนั้นยังมีการทานข้าวร่วมกันและพูดคุยแนวทางการหาเสียงในศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง ซึ่งคุณเอ๋เองมีความห่วงใย หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป ตนเองไปประชุมต่อ ส่วนคุณเอ๋ ก็เดินทางไปที่บุรีรัมย์ กระทั่งมาทราบข่าวการจากไปในครั้งนี้ ยมอรับว่าตกใจและเสียใจมาก