วันที่ 4 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นอีกสนามเลือกตั้งหนึ่งที่จังหวัดนครพนมเขตเลือกตั้งที่ 2 ซึ่งประกอบด้วยอำเภอท่าอุเทน อำเภอโพนสวรรค์ และอำเภอเมืองนครพนม เฉพาะตำบลในเมือง ต.หนองแสง ต.อาจสามารถ ต.นาราชควาย ต.หนองญาติ และตำบลท่าค้อ
โดยในเขตนี้แชมป์เก่าเจ้าของพื้นที่คือ นางมนพร เจริญศรี จากพรรคเพื่อไทย เป็น ส.ส.สองสมัย มีฐานเสียงทางการเมืองคือกลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกลุ่ม อสม.กลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจในจังหวัด ตลอดสี่ปีที่ผ่านมามีผลงานในสภาเป็นที่ประจักษ์ของชาวบ้าน โดยถูกจัดให้ขึ้นอภิปรายในสภาอย่างต่อเนื่อง และในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ก็ยังได้นายแพทย์ประ สงค์ บูรณ์พงษ์ ที่หันกลับมาเข้าทำงานกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้งหนึ่งหลังจากไปอยู่กับพรรคเสรีรวมไทยในสมัยที่ผ่านมา มาเป็นพี่เลี้ยงให้กับนางมนพร อีกแรงหนึ่ง โดยนายแพทย์ประสงค์ ให้สัม ภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตอนแรกตั้งใจจะกลับมาลง สส.เขตที่จังหวัดนครพนมในนามพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อมีผู้ลงสมัครเต็มแล้ว ก็จะขอเป็นพี่เลี้ยงให้ผู้สมัครของพรรค ซึ่งตนคิดว่าสามารถเอา ชนะคู่แข่งได้อย่างไม่ยาก
ส่วนนางมนพร เจริญศรี เปิดเผยระหว่างการเปิดปราศรัยย่อยหาเสียงที่ศาลาประชาคมบ้านดอนโมง ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นคร พนม หลังจากได้เบอร์ผู้สมัครคือเบอร์ 2 ว่าตนนั้นไม่รู้สึกหนักใจใด ๆ ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากมั่นใจในผลงานที่ได้ทำไว้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนในจังหวัดนคร พนมมาก่อน ประกอบกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย ก็โดนใจชาวบ้านอยู่แล้วจึงคิดว่าจะสามารถสอบผ่านได้อีกสมัยอย่างแน่นอน ส่วนกลยุทธที่ใช้หาเสียงนั้นจะเน้นการเปิดปราศรัยย่อยในหมู่ บ้านทุก ๆ หมู่บ้านเพื่อให้ประชานรับรู้ถึงนโยบายของพรรค ซึ่งขณะนี้ตนสามารถตระเวนเปิดปราศรัยไปได้เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่แล้ว ซึ่งมั่นใจว่าสามารถชนะแบบแลนด์สไลด์ ได้ทั้งสี่เขตของจังหวัดนครพนมอย่างแน่นอน
ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ส.ส.นครพนม หลายสมัยล่าสุดรับตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 สังกัดพรรคภูมิใจไทย รอบนี้หวังดับฝันแลนด์สไลด์ของคนเสื้อแดงหลังได้ขยับจาก เขต 1มาลงใน เขต 2 นี้ ทำให้อุณหภูมิทางการเมืองในเขตนี้พุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันที เนื่องจากแต่เดิมนายศุภชัย เป็นเจ้าของพื้นที่ใน เขต 1 แต่หลังจากใช้กลยุทธ หาเสียงจนสามารถเอาชนะผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้เพียงเขตเดียวในจังหวัดนครพนม ในการเลือกตั้งสมัยที่แล้วทำให้เกิดความมั่นใจ ขยับมาลงใน เขต 2 โดยให้ศรีภรรยา คือนางพูนศุข โพธิ์สุลงรักษาพื้นที่ใน เขต 1 แทน จึงนับว่าเป็นเขตช้างชนช้างเลยทีเดียว โดยเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยเจ้าถิ่น กับผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทยซึ่งต่างฝ่ายต่างคาดหวังว่าจะสามารถทำแลนด์สไลด์ให้ได้ในสนามเลือกตั้งที่จังหวัดนครพนม
นายศุภชัย โพธิ์สุ เปิดเผยขณะเปิดปราศรัยย่อย ที่ศาลาประชา คมบ้านนาล้อม ต.นาหัวบ่อ อำเภอโพนสวรรค์ จ.นครพนมหลังจากได้เบอร์ผู้สมัคร คือ เบอร์ 3 ว่า ถึงแม้จะมั่นใจในผลงานที่ผ่านมาของพรรคภูมิใจไทย ที่สามารถทำได้แทบทุกนโยบายที่ได้ประ กาศไว้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกันแล้ว ในรอบนี้ตนยังเชื่อมั่นว่าประชาชนยังชื่นชอบนโยบายของพรรคและสามารถเอาชนะใจของประชาชนได้ในที่สุด.
Discussion about this post