วันนี้ (4 เม.ย.66) มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร โดยการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุนส่งเสริม ววน.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดเวทีเสวนา Poverty Forum กุดบากโมเดล: “ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมใจ” ปฏิบัติการความร่วมมือแก้ไขความยากจนระดับอำเภอขึ้น ณ ห้องประชุมดุสิตา โรงแรมภูพานเพลส มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ผู้ร่วมเสวนา 3 ช่วง โดยช่วงแรกเสวนาในประเด็นโอกาสและอนาคตการใช้ประโยชน์ข้อมูลครัวเรือนยากจนเพื่อการพัฒนาพื้นที่ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ ประกอบด้วย ดร.แมน ปุโรทกานนท์ หัวหน้าแผนงานวิจัยและนวัตกรรม ผศ.ดร.ก้องภพ ชาอามาตย์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ดร.สุธาสินี คุปตะบุตร นักวิจัย นายชัยยุทธ วัยเหนิดลื้อ นายกเทศมนตรีตำบลกุดแฮด นายจำเนียร ก้อนธิงาม นายกเทศมนตรีตำบลนาม่อง นายพิชัย ดาบพิมพ์ศรี นายกเทศมนตรีตำบลกุดบาก น.ส.ธัญรัตน์ สุรินทะ ผอ.กองสวัสดิการสังคม เทศบาลตำบลกุดไห
ดร.แมน ปุโรทกานนท์ หัวหน้าแผนงานวิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า เราออกแบบเรื่องของการแก้ปัญหาเรื่องรายได้ โดยการลดรายจ่าย และเพิ่มรายของประชาชน จัดให้มีสวัสดิการในการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และในระยะยาวจะต้องเข้าไปสู่เรื่องของตลาด จากตลาดภายใน พัฒนามาตรฐานไปสู่ตลาดภายนอกให้ได้ รวมถึงปริมาณการผลิต เพราะฉะนั้นการทำงานร่วมกันกับภาคีความร่วมมือ จะเปิดโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรป่าไม้ ที่ดิน การท่องเที่ยว อย่างยั่งยืน จะเป็นโอกาสใหม่ๆที่จะทำให้ชุมชนมีโอกาสพัฒนาตัวเองมากขึ้น และช่วยเหลือคนจนได้มากขึ้น
ผศ.ดร.ก้องภพ ชาอามาตย์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มีบุคลากรที่มีความหลากหลาย ได้เข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนกิจกรรม เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยนักวิจัยของมหาวิทยาลัยได้นำองค์ความรู้ ทั้งด้านเทคโนโลยี และ นวัตกรรมลงไปช่วยหนุนเสริม เพื่อพัฒนาชุมชน ร่วมกับภาคีเครือข่าย ให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน เช่น โครงการโมเดลแก้จน
ดร.สุธาสินี คุปตะบุตร กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสร้างเป้าหมายร่วมกับกลไกในพื้นที่ ค้นหาจำแนกกลุ่มเป้าหมาย ระบุคนจนจริง แยกคนจนไม่จริงออกจากระบบ PPPConnextและสอบทานข้อมูลตามทุนดำรงชีพครัวเรือน 5 ด้านได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนกายภาพ ทุกเศรษฐกิจ ทุนธรรมชาติ และทุนสังคม เพื่อเข้าใจคนจน ค้นหาทุนชีวิต พิชิตความยากจน ในปี 2565 พบว่ามีครัวเรือนตกหล่น 508 ครัวเรือน ครัวเรือนรั่วไหล 1,744 ครัวเรือน และครัวเรือนยากจนจริง 686 ครัวเรือนผลการวิเคราะห์ข้อมูลทุนการดำรงชีพครัวเรือนพบว่าส่วนใหญ่ทำนาและรับจ้างภาคการเกษตรมีทักษะการประกอบอาชีพไม่หลากหลายพื้นที่ส่วนใหญ่ทำการเกษตรพึ่งพิงน้ำฝนมีปัญหาน้ำเข้าไม่ถึงแปลงดินไม่อุดมสมบูรณ์ไม่มีการออมมีหนี้สินมีรายได้จากค่าแรงและจ่ายค่าอาหารเพื่อบริโภคเป็นหลักรายได้ที่แน่นอนที่สุดมาจากเงินอุดหนุนของรัฐเช่นบัตรสงเคราะห์บัตรสวัสดิการของรัฐเป็นต้น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิจิตรา สุจริต กล่าวว่า กระบวนการออกแบบปฏิบัติการแก้จน (Operating Model: OM) เริ่มจากการวิเคราะห์ฐานทุนดำรงชีพ 5 ด้าน ร่วมกับการประเมินสภาพการณ์ในปัจจุบันพบว่าเกษตรกรกำลังประสบปัญหาผลผลิตทางการเกษตรลดลงเนื่องจากการปลูกพืชซ้ำซากส่งผลถึงต้นทุนการผลิตสูง ราคาผลผลิตทางการเกษตรผันผวนและขึ้นอยู่กับกลไกการตลาดการเกษตรพึ่งพาน้ำฝน คุณภาพดินเสื่อมโทรมลงแรงงานเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ เน้นนำครัวเรือนยากจนให้เข้าสู่ห่วงโซ่การผลิต (Pro-Poor Value Chain)หรืออุตสาหกรรมการผลิตในท้องถิ่น เพื่อสร้างและเพิ่มรายได้อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงครัวเรือนอ่อนไหวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้ประสบปัญหาหนี้สิน ต้องกลับภูมิลำเนา จึงต้องแสวงหาทางออก สร้างอาชีพเพื่อมีรายได้ที่จะสามารถกลับมาดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพอีกครั้งด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครได้เลือกอำเภอกุดบากเป็นต้นแบบดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนระดับอำเภอด้วยหลักคิด Max-Man-Mind เพราะมีการกระจุกตัวของครัวเรือนยากจนมากที่สุด (Max) ผู้นำท้องถิ่นท้องที่มีความมุ่งมั่นพัฒนาพื้นที่ (Man) และครัวเรือนมี mindset มีศักยภาพพร้อมรับการการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนา (Mind) มหาวิทยาลัยมีบทบาทเป็นทุนปัญญาในพื้นที่ ได้น้อมนำศาสตร์พระราชา “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เพื่อทำหน้าที่เป็น“กลไกสำคัญ”ในการสนับสนุนเชื่อมโยงข้อมูลแก้จนชุดเดียวกันในการทำงานกับหน่วยงานต่างๆทั้งภายในมหาวิทยาลัยและภาคีเครือข่ายให้เป็นพลังขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความยากจนซึ่งมีหลายมิติรวมทั้งประสานความร่วมมือการช่วยเหลือตั้งแต่ระดับครัวเรือนตำบล อำเภอจังหวัดและประเทศโดยมีทีมกลางจากบพท. เป็นที่ปรึกษาและหนุนเสริมการทำงานมีเป้าหมายความสำเร็จเพื่อสร้าง “แพลตฟอร์มแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำระดับอำเภอ” เป็นพื้นที่ปฏิบัติการแก้จนแบบมีส่วนร่วมจากความร่วมมือการทำงานจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคมและภาคประชาชนด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์รายครัวเรือน (Evidence-Based Approach) ที่มีเป้าหมายการใช้ข้อมูลที่แม่นยำร่วมกันเพื่อช่วยเหลือให้หายจนแบบเบ็ดเสร็จและยั่งยืน จึงเกิดการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจนระดับอำเภอ
“กุดบากโมเดล”ถือเป็นรูปธรรมความสำเร็จความร่วมมือแก้ไขความยากจนระดับอำเภออย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำ พัฒนาระบบข้อมูลครัวเรือน ระบบส่งต่อ/ติดตาม/การช่วยเหลือ ระบบการพัฒนาโมเดลแก้จน หนุนเสริมหน่วยงานสร้างนโยบายแก้จน ลดวัฏจักรความยากจน เกิดวัฏจักรเศรษฐกิจระดับพื้นที่ สามารถนำเป็นต้นแบบเรียนรู้สู่การขยายผลให้กับทุกอำเภอในจังหวัดสกลนครต่อไป ซึ่งในปี 2566 มหาวิทยาลัยได้ขยายผลการดำเนินงานไปที่อำเภออากาศอำนวย เป็นต้น
//////////// วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร 0819541528
Discussion about this post