เช้าวันที่ 5 เม.ย. 66 นายณรงค์ สะอาดรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ หนึ่งในนั้นเป็นแม่ค้าร้านขายของชำ ชื่อนางสาวจินดารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี และสามี ว่ามีชายหนุ่มชอบมาซื้อของร้านชำเสร็จแล้วไม่ก็ยอมกลับบ้าน มายืนจ้องตนหน้าร้านบ้าง มาแทบทุกวัน บางวันมา 3 เวลา เช้ากลางวันเย็น มาซื้อเหล้านั่งกินหน้าร้านและก็พูดคนเดียว บางครั้งก็ไม่ซื้อ แค่เดินเข้าไปยืนมองตรงโซนเหล้าขาว อารมณ์เหมือนอยากกินเหล้า แต่ตนก็ไม่กล้าขายให้ บางครั้งก็ขโมยของในร้าน พอถูกจับได้ก็อารมณ์เสีย และก็เอาของคืน และชอบยืนอยู่ในสวนยางนอกร้านค้าเพื่อซุ่มดูตน บางครั้งก็ซื้อหอยมาให้ เราก็ไม่กล้ารับไว้และก็ไล่ให้ไปเพราะความกลัว เป็นแบบนี้อยู่นาน ตอนนี้ทุกคนในบ้านเครียด และรู้สึกเสียสุขภาพจิตมาก จนตนกับลูกค้าที่มาซื้อของผวากันไปหมดแล้ว ทนไม่ไหวจนต้องซื้อกล้องวงจรปิดมาติดไม่นานมานี้ เพราะสามีก็ต้องไปทำงาน ตนต้องอยู่ร้านขายของกับลูกๆเพียงลำพัง ซึ่งกลัวเป็นอัน ตราย เพราะเราไม่รู้เค้าเป็นอะไร และคิดอะไรอยู่ พอติดกล้องแล้วก็ได้เห็นพฤติกรรมของชายดังกล่าว ขี่รถมาหน้าร้านขโมยถุงเกลือและก็พูดคนเดียวตามคลิปวงจรปิดที่เห็น
นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านในพื้นที่ เคยเห็นชายคนดังกล่าวเดินตระเวนไปตามที่ต่างๆ ชอบเดินเข้าบ้านเรือนประชาชน และที่หนักไปกว่านั้นคือมีคนเห็นว่าทำร้ายร่างกายแม่ตัวเอง และยังก่อวีกรรมอีกหลายอย่าง เคยแจ้งตำรวจไปแล้ว ตำรวจก็มาจับไปผ่านไปไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็ปล่อยออกมา ไม่รู้จะทำยังไรแล้วอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยจัดการ จะพาไปรักษา หรืออะไรก็ได้ แต่ไม่อยากให้เค้ากลับมาอีก
ต่อมานายณรงค์ สะอาดรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.หนองบัว ได้ประสานไปยัง ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดระยอง อบต.หนองบัว และ อสม.ในพื้นที่ พร้อมนักสังคม สงเคราะห์ ไปที่บ้านของชายคนดังกล่าว ในพื้นที่ ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย เมื่อไปถึงยังที่บ้าน ก็พบว่าชายคนดังกล่าว เดินออกมาจากบ้านด้วยท่าทีงุนงง พร้อมสุนัขนับ 10 ตัว ที่เห่าเสียงดังสนั่น เจ้าหน้าที่จึงพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่ แต่ชายคนดังกล่าวเหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือ พูดคุยอยู่นานสติก็เริ่มเย็นลง
ทราบชื่อคือนายมนัสวี (สงวนนามสกุล) หรือ ยิ่งยง อายุ 29 ปี หลังจากนั้นจึงได้ถามว่า มีการเสพยาหรือไม่ นายมันสวี ก็ปฏิเสธทันทีว่าไม่เสพยาบ้าดื่มแค่น้ำกระท่อม ก่อนเค้นจนมุมจึงยอมรับสารภาพว่าเสพยาจริง จึงถามว่าเสพทำไม
นายมันสวี ตอบว่า แค่อยากลองเฉยๆ อยากรู้ว่าบ้าจริงหรือไม่ จึงถามต่อว่าได้ทำร้ายร่างกายแม่จริงหรือไม่ นายมนัสวีก็ให้การปฏิเสธอีก และกล่าวหาว่าแม่ตัวเองเป็นจิตเวชเคยไปรักษาและไม่ยอมกินยา
ต่อมาน.ส.พยอม (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี แม่ของนายมนัสวี กลับบ้านมาพอดี พอมาถึงจึงถามว่าใครเป็นจิตเวช ต่างคนต่างชี้นิ้วใส่กันและไม่ยอมรับ ทำให้เจ้าหน้าที่ถึงกับคุมขมับ น.ส.พยอม ให้ข้อ มูลว่า คาดว่าลูกตัวเองเป็นจิตเวชอยากให้เอาลูกตัวเองไปรักษา เพราะมีอาการเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย หากไปขัดใจก็อาจจะโดนทำร้ายร่างกายได้ เคยบอกเคยห้ามแล้วว่าห้ามไปร้านค้านั่นแต่ก็ห้ามไม่ได้ เวลาโมโหไม่ได้ดั่งใจก็จะพังข้าวของภายในบ้าน กระจกประตูหน้าบ้านแตกก็เพราะเค้าเอาหินปาใส่ พอรับจ้างหาเงินมาได้ก็เอาเงินไปซื้อเหล้า ซื้อยามาเสพก็มาอาลาวาดอีก พูดจาหยาบคาย ยังเคยโดนถูกทุบตีจนตัวช้ำหมดแล้ว เป็นแบบนี้มาประมาณ 3 ปี แล้ว คาดว่าเป็นแบบนี้เกิดจากการเสพยา เคยเอาไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้านค่าย ทางโรงพยาบาลก็แจ้งว่าเป็นจิตเวชก็เอายามากิน แต่กินไปสักพักก็ไม่กินอีกอ้างว่ามีการไม่ดีตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงอยากวอนหน่วยงานให้มาช่วยเอาไปรักษาที
นายณรงค์ สะอาดรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.หนองบัว กล่าวว่า ทางผู้ใหญ่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากได้รับแจ้งก็ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาตรวจสอบ และหาแนวทางแก้ไขทันที วันนี้หลังจากที่คุยกับนายมนัสวี ก็ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และยิน ยอมเข้ารับการรักษาและบำบัดอาการติดยาเสพติด โดยลำดับแรกก็ประสานกับ รพ.สต.พื้นที่แล้ว และที่เหลือก็รอตามขั้นของระบบ เพื่อให้นายมนัสวี ได้รับการรักษาต่อไป.
Discussion about this post