วันที่ 7 เมษายน 2566 นายประนนท์ เพชรคำจันทร์ อายุ 68 ปี นางตุ๋ย เพชรคำจันทร์ อายุ 59 ปี เลขที่ 525 ม.4 บ้านนาคำ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร นำหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อ ดร.นิยม เวชกามา “มหานิยม”อดีต ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย โดยอ้างว่าเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2561 ได้นำโฉนดที่ดิน เลขที่ 4672 ต.บ้านม่วง เลขระวาง 5744 IV 5070 เลขที่ดิน 93 หน้าสำรวจ 2060 อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร กับนายทุนรายหนึ่งใน อ.เซกา จ.บึงกาฬ ในราคา 1.5 ล้านบาท โดยนายทุนได้หักเงินเป็นค่าเป็นค่าไถ่จาก ธกส.347,320 บาท ค่าที่ดิน 213,084 บาท ค่าอาการ 30 บาท หักดอกล่วงหน้า 6 เดือน เป็นเงิน 135,000 บาท ค่าจำนอง 75,000 บาท คงเหลือได้รับเงินจากนายทุน 729,566 บาท และได้ส่งดอกเบี้ยมานาน 2 ปี เดือนละ 22,500 บาท รวมทั้งสิ้น 450,000 บาท ซึ่งในช่วงโควิด 19 คนทั้งสองได้ติดโควิด และป่วยเป็นโรคไทรอยด์ และหัวใจจึงไม่ได้ส่งส่งดอก
นายทุนรายนี้จึงอาศันช่องทางโอนที่ดิรเป็นชื่อของนายทุน โดยทีสัญญาว่าจะซื้อขาย 2 ฉบับ โดยฉบับแรกเป็นสัญญาซื้อ ฉบับ 2 เป็นสัญญาขาย ให้กับผู้ร้อง ในราคา 1,700,000 บาท เมื่อได้สอบถามว่าทำไมต้องไถ่คืนในราคา 5 ล้านบาท ก็ได้รับคำตอบว่าก็คิดราคาทั้งต้นและดอก แต่ที่น่าสังเกตุว่าอัตราดอกเบี้ยที่คิดตนว่าสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และที่ตนส่งดอกเบี้ยไปทั้งหมดนั้น นายทุนอ้างว่าเป็นค่าเข่าที่ ตนมาคิดว่าที่ดินเป็นของตน แล้วตนจะไปเช่าที่ดินของตัวเองทำไม เพราะที่ดินของตนเป็นที่ดินมรดก ยังเป็นป่าและยังไม่เคยเข้าไปดำเนินการใดๆในที่ดินผืนนี้ จึงได้ปรึกษากับอัยการคุ้มครองสิทธิ์ ฯ ท่านยังเห็นว่าในสัญญาเขียนขึ้นมาขัดแย้งกันเอง ให้ลุงกับป้าสู้ต่อไป เช่นเดียวกับ ดร.นิยม เวชกามา ที่เห็นว่าเรื่องนี้นายทุนมีเจตนาอย่างไรตั้งแต่ทีแรก เพราะสัญญาสับสน เขียนผู้ซื้อเป็นผู้ขายสลับกัน แสดงถึงเจตนาจะฉ้อโกงแต่แรก รอให้ตนผ่านการเลือกตั้ง จะดำเนินการให้ ซึ่งนายประนนท์ และนางตุ๋ย ร่ำไ้ห้พร้อมกราบขอบคุณที่จะให้การช่วยเหลือ ก่อนเดินทางกลับ
วัฒนะ แก้วก่า / สกลนคร
Discussion about this post