ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 เมย.นี้ ที่หนำป้าดุ่ย หมู่ที่ 7 ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ช่างภาพถ่ายนกในธรรมชาติจำนวนหนึ่ง เดินทางไปรอถ่ายนกกระเต็นลายทั้งตัวผู้และตัวเมีย ที่ช่วยกันจับแมลงตัวเล็กๆและกิ้งก่าตัวขนาดเล็ก นำมาป้อนลูกนกที่อยู่ในโพรงรัง และขณะที่กลุ่มช่างภาพเตรียมพร้อมถ่ายภาพพ่อ แม่นกนำอาหารมาป้อนลูก ก็มีนกกระเต็นลายตัวผู้ คาบเอาสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง อย่างที่กลุ่มช่างภาพไม่เคยพบเห็นมาก่อน เป็นสัตว์ที่มีลำตัวคล้ายจิ้งเหลน มีขา 4 ขา แต่หางยาวคล้ายงู ถูกนกจับคาบบินมาเกาะ ต่อหน้ากลุ่มช่างภาพ นกกระเต็นลายก็ใช้วิธีเอาปากคาบที่ลำตัว ส่วนหางที่ยาวออกไปนั้น พ่อนกก็ได้เอาส่วนหางของสัตว์ประ
หลาดพันไว้กับปีก เพื่อสะดวกในการบินนำสัตว์ประหลาดมาป้อนเป็นอาหารของลูกนก และทันที่ที่นกคาบเหยื่อบินมาเกาะ ช่างภาพก็พากันตื่นเต้น และกดซัตเตอร์รัวๆ เพราะกลังว่านกจะคาบเหยื่อหายไป
นางวรรณดี ชายเกตุ หรือป้าดุ่ย ช่างภาพที่ชื่นชอบกับการถ่ายภาพนกในธรรมชาติ เผยว่า ขณะที่นั่งรอนกกระเต็นลายทั้งตัวผู้และตัวเมีย ช่วยกันจับเหยื่อส่วนใหญ่ก็จะเป็นจิ้งหรีด จักกระจั่นหรือกิ้งก่าและจิ้งเหลนตัวขนาดเล็ก นำมาป้อนลูกที่อยู่ในโพรงรังและปีนี้ นกกระเต็นลายได้ อพยพลงมาสร้างโพรงรังใกล้บ้านในสวนมังคุด และขณะที่ช่างภาพกำลังรอถ่ายภาพ พบว่านกกระเต็นลายตัวผู้คาบเอาสัตว์ตัวประหลาดที่ไม่เคยพบมาก่อน นำมาป้อนลูกที่อยู่ในโพรงรัง สร้างความตื่นเต้นให้กับกลุ่มช่างภาพ
และจากการสอบถามผู้รู้ก็ทราบว่า สัตว์ประหลาดที่คล้ายกิ้งก่าและหวงยาวคล้ายงูที่นกกระเต็นจับมาเป็นอาหาร ของลูกนก เป็นจิ้ง เหลนน้อยหางยาว หรืองูคาและบางพื้นที่เรียกส่างหา เป็นสัตว์เลื้อยคลานและกระจายพันธุ์อยู่ทั่วประเทศ แม้ว่าการพบเห็นสัตว์ชนิดนี้นานๆจะพบตัวเป็นๆก็ตามอาศัยอยู่ตามป่าในธรรมชาติก็ตาม แต่การที่พบว่านกกระเต็นลายสามารถจับจิ้งเหลนน้อยหรืองูคา มาเป็นอาหารป้องลูกในโพรงรัง ก็ยังเป็นที่ยืนยันได้ว่า พื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะจังหวัดพัทลุง ก็มีสัตว์ที่รูปร่างคล้ายงูและคล้ายจิ้งเหลนอาศัยอยู่ด้วย.
Discussion about this post