ที่ชุมชนทุ่งเฉลิมสุข ซอย17 ต.พิมาน อ.เมือง จังหวัดสตูล ภายใน “ร้านขนมบ้านก๊ะจิ๊ก&หวาชา” ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 10 / 15 ทุกคนในครอบ ครัวกำลังเร่งมือขมักเขม้นในการทำขนมพื้นเมือง โดยเฉพาะขนมบุหงาบูดะ ขนมพื้นเมืองที่ทำค่อนข้างยาก และต้องใช้ความชำนาญการ เริ่มตั้งแต่การร่อนแป้ง การห่อขนมให้สวยงามและไส้มีรส ชาติอร่อย ให้ทันกับความต้องการของลูกค้าที่มีออเดอร์เข้ามาก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลฮารีรายา
น้องมาเรีย นาคบรรพต อายุ 30 ปี ทายาทรุ่นที่สี่ของการทำขนมพื้นเมือง บอกว่า ขนมบุหงาบูดะ ทำค่อนข้างยาก มีเพียงน้องคนเดียวที่ทำอยู่ภาย ในบ้าน เนื่องจากขั้นตอนที่พิถีพิถันเริ่มตั้งแต่การร่อนแป้งลงไปไม่ให้สุกจนเกินไปเพราะจะใช้ใยของแป้งขนมในการห่อเท่านั้น สามารถทำได้ครั้งละ 1ชิ้น โดยพัฒนาจากเตาถ่านมาเป็นเตาแก๊ส ควบคุมความร้อนได้


สำหรับส่วนผสมของขนมบุหงาบูดะ ประกอบด้วย แป้งข้าวเหนียวผสมน้ำตาล เกลือ น้ำ ส่วนไส้ ใช้มะพร้าวทึนทึกผัดกับน้ำตาล อบด้วยดอกมะลิ ใส่สีผสมอาหารให้สวยงาม
ด้านนางอิชริยา นาคพรรพต อายุ 62 ปี บอกว่า ตนได้สูตรการทำขนมมาจากบรรพบุรุษ ส่งต่อให้ลูกสาวเป็นรุ่นที่4 โดยยึดอาชีพทำขนมพื้นเมืองเลี้ยงครอบครัวมานานกว่า 38 ปี ทำทั้งขนมสด และขนมแห้งมากกว่า 20 ชนิด นอก จากนี้ยังรับเป็นวิทยากรสอนรับทำอาหารเบรก ซึ่งเล็งเห็นว่าขนมพื้นเมืองเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงครอบ ครัวได้ ยิ่งนับวันก็หาทานได้ยาก หลายคนก็โหยหาที่จะกิน และอยากทำเป็น โดยส่วนใหญ่ขนมนี้จะหารับประทานได้ในช่วงเทศกาลฮารีรายาหรือ งานบุญของพี่น้องชาวมุสลิมไม่ว่าจะเป็นขนมบุหงาบูดะสีสันสวยงาม ขนมกลีบลำดวน ขนมมาหมอดหรือไข่เต่า โดยเฉพาะ10 วันหลังใกล้เทศ กาลฮารีรายาจะมีออเดอร์ ซึ่งก่อนโควิดระบาดสูง สุด ขนมสดถาด 20 ถาด รายได้ 4-5 พันบาทต่อวัน ขนมแห้ง 500 กล่อง มาเทศกาลในครั้งนี้ยอดออเดอร์เข้ากว่า 300 กล่องแล้วทางบ้านขนมจัดจำ หน่ายในราคากล่องละ 40 บาท รับบริการส่งทั่วไทย ขนมสามารถอยู่ได้ 30 วันและยืนยันในวัตถุดิบว่ามีคุณภาพ ไม่ใส่สารกันบูด
สนใจสามารถติดต่อได้ที่ fb : Maria Nbpt หรือ ที่ดีเจ หวาชาสตูล หรือ ทางหมายเลขโทรศัพท์ 080-545 5196 บ้านขนมกะจิ๊ก & หวาชา.
Discussion about this post