ที่อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ตร.จับยกครัว พ่อพี่และน้องสาว หลังเมียสุดแค้นวางแผนกับพ่อพี่ชายฆ่าผัวตัวเอง หลังรู้แอบไปมีสัมพันธ์ลึกกับหลานสาววัย 20 ปี วางแผนฆ่าผัวทิ้งหลังเจ็บช้ำน้ำใจมานาน ร่ำไห้อยากให้เห็นใจหัวอกคนเป็นผู้หญิงถูกผัวสวมเขาแบบนี้
วันนี้ (23 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายง านว่า บ่ายวานนี้ พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน จ.อุดรธานี พร้อม พ.ต.ท.เผดิมชัย อินนุ่มพันธ์ สว.สส.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ไชยวาน ได้ร่วมกันจับกุมนายบุญศรี อุ่นสง คราม อายุ 65ปี,นายแสวง อุ่นสงคราม อายุ 46 ปี,น.ส.ราตรี อุ่นสงคราม อายุ 44 ปี โดยทั้ง 3 คนเป็นพ่อลูกกัน อยู่บ้านพรนิมิต ต.หัวนาคำ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชนและพาอาวุธไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2566 เวลาประมาณ 16.20 น. นายสุทธิที สีละขันธ์ อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่ฯ ของเทศบาลฯ แห่งหนึ่งในอ.ศรีธาตุ ได้เดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ไชยวาน ว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2566 เวลาประมาณ 09.00 น. ได้มีชาย 2 คนได้พยายามทำร้ายฯโดยใช้มีดขว้างใส่กระจกรถยนต์และใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดและชนิด ยิงใส่รถยนต์ของผู้เสียหาย เหตุเกิดที่บริเวณสันภูหินลับบริเวณสามแยกขึ้นภูเขาต้องมนต์ หมู่ที่ 6 ต.โพนสูง อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี โชคดีที่ตนเองรอดตายจากคมกระสุนมาได้ อยากให้ตร.ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนสาเหตุตนเองยังไม่รู้เพราะเรื่องอะไร
ต่อมาพ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสง คราม ผกก.สภ.ไชยวาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตร.ชุดสืบสวน ออกสืบสวนหาตัวคนร้ายจับกุมได้ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้านบ้านโนนสมบูรณ์ ต.โพนสูง อ.ไชยวาน พร้อมยึดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุคือ 1.อาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 1 กระบอก 2.อาวุธปืนชนิดประกอบเอง(ปืนแก็ปยาว) จำนวน 2 กระ บอก 3.เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 12 นัด 4.ปลอกกระสุนปืนลูกซอง 1 ปลอก โดยผู้ก่อเหตุทั้งหมด 3 รายให้การรับสารภาพ คือนายบุญศรี อายุ 65 ปี ผู้เป็นพ่อและเป็นคนยิงอาวุธปืนลูกซองยาวใส่รถของลูกเขย,นายแสวง อุ่นสงคราม อายุ 46 ปี ลูก ชายนายบุญศรีและเป็นผู้ก่อเหตุขว้างใส่รถน้องเขย และน.ส.ราตรี อุ่นสงคราม อายุ 44 ปีน้องสาวนายแสวง และเป็นภรรยาของนายสุทธิที และเป็นคนวางแผนฆ่าสามีตัวเอง โดยทั้ง3 คนเป็นพ่อลูกกัน พร้อมกับนำตัวทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่น.ส.ราตรี ขณะตร.เข้าจับกุมได้เข้าจับกุมถึงกับร่ำไห้บอกว่า ใครไม่เจอกับตัวเองไม่รู้หรอกว่าหัวอกผู้หญิงเป็นอย่างไร อยากให้เข้าใจบ้าง สามีตัวเองแท้ๆ แอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลานสาวของตนเองซึ่งเป็นลูกสาวของพี่ชายคือนายแสวง ทำอย่างนี้ได้ไง ทั้งผัวและหลานสาว เราเลี้ยงดูแลมาทั้งสองคน ผู้หญิงคนไหนเจอแบบนี้ก็คงรับไม่ได้ ตนเองก็เคยเตือนสามีอย่าไปยุ่ง และบอกหลานสาวอย่าไปยุ่งกับสามี แต่ทั้งคู่ห้ามเท่าไรก็ไม่ฟัง มันเจ็บช้ำใจเหมือนหัวใจถูกเหล็กแหลมๆ ทิ่มแทงอยุ่ตลอดเวลา ผัวมามีชู้กับหลานสาวทั้งๆ ที่อยู่บ้านเดียวกัน นั่งร้องไห้ทุกวัน น.ส.ราตรีถึงกับร่ำไห้ออกมา
พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน เปิดเผยว่า มูลเหตุของ 3 พ่อลูกที่ก่อเหตุหวังจะฆ่านายสุทธิทีครั้งนี้ เนื่องจาก น.ส.ราตรี ซึ่งเป็นภรรยากับนายสุทธิที จับได้ว่าสามีตัวเองไปเป็นกิ๊กกับน.ส.อ้อม (นามสมมติ อายุ 20 ปี) ซึ่งเป็นหลานแท้ๆ และเป็นลูกสาวของนายแสวง พี่ชายที่ทำงานที่จ.ระยอง วันเกิดเหตุ น.ส. ราตรีได้ใช้มือถือของหลานสาววางแผนหลอกให้นายสุทธิที สามีมาพบที่บริเวณแยกบริเวณสันภูหินลับบริเวณสามแยกขึ้นภูเขาต้องมนต์ โดยทักแชทไปหา และได้โทรเรียกให้นายแสวงพี่ชายที่ทำงานอยู่จ.รระยองกลับมาบ้าน วันเกิดเหตุพอนายสุทธิทีขับรถปิคอัพมาหา ปรากฏว่านายแสวงที่หลบอยู่พุ่มไม้ได้ขว้างมีดใส่กระ จกรถยนต์ด้านหลังจนแตก จากนั้นนายบุญศรี ซึ่งเป็นพ่อได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงไปที่รถของลูกเขย จนมีรอยกระสุนหลายแห่งประตูด้านข้างด้านซ้าย จังหวะนั้นเองนายสุทธิทีตกใจได้ขับรถหนีออกไปอย่างรวดเร็ว และมาแจ้งความกับตร.สภ.ไชยวานว่ามีคนซุ่มยิง ตร.เราได้สืบสวนหาสาเหตุจนจับกุมได้ทั้งหมด สาเหตุคือน.ส.ราตรีเมื่อจับได้ว่า สามีของตนเองแอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน.ส.อ้อม ซึ่งเป็นลูกสาวของพี่ชาย มานานหลายปี แม้บอกให้ทั้งคู่เลิกเท่าไรก็ไม่ยอม และ น.ส. ราตรีเคยไปแจ้งความที่สภ.ศรี ธาตุให้ดำเนินคดีกับสามีในข้อหาพรากผู้เยาว์ด้วย อาจจะคับแค้นใจที่ถูกสามีสวมเขาแบบนี้จึงวางแผนฆ่าสามีดังกล่าว หลังจากนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปชี้ที่เกิดเหตุ ประกอบคำรับสารภาพ ตร. ได้ควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวนสภ.ไชยวานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.
Discussion about this post