วันที่ 25 เมษายน 2566 นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ในฐานะรองประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัดนครพนม เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ผู้ประสบอัคคีภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และสร้างขวัญกำลังใจในการต่อสู้ฝ่าฟันให้พ้นวิกฤตภัยครั้งนี้ จำนวน 2 ครัวเรือน นายหวั่น รูปเหมาะ บ้านเลขที่ 197 หมู่ที่ 13 ตำบลนาคำ อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ผู้ประสบอัคคีภัยที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2566 เวลา 19.00 น. นายขาน ยุติรักษ์ บ้านเลขที่ 170 หมู่ที่ 14 ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ผู้ประสบอัคคีภัยที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2566 เวลา 22.00 น.
โดยมี นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นายอำเภอศรีสงคราม นายอำเภอบ้านแพง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน/หมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ตำบลกุตาไก้ อำเภอปลาปาก ร่วมพิธีฯ พร้อมมอบสิ่งของและเงินช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย
นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ท่าน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่าง ๆ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นำสิ่งของพระราชทานมาให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์การพิจารณาการจ่ายเงินสำรองจ่ายมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่มีอยู่ทางจังหวัด โดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์นั้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งเป็นมูลนิธิขึ้น เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2506 จากเหตุการณ์มหาวาตภัยที่แหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ. 2505 เพื่อดำเนินงานด้านการสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยทั่วประเทศ รวมถึงสงเคราะห์ด้านการศึกษา ด้วยการมอบทุนการศึกษาแก่เด็กกำพร้า ที่ครอบครัวประสบสาธารณภัย และเด็กที่เรียนดีในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ตลอดระยะเวลากว่า 59 ปี มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ได้น้อมนำแนวทางตามพระราชดำริ ของพระองค์มาใช้เป็นรากฐานในการดำเนินงานดังพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงวางรากฐานการดำเนินงานของมูลนิธิไว้ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด การดำเนินงานของมูลนิธิ ราชประชานุเคราะห์ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบสาธารณภัยเป็นไปอย่างต่อเนื่องด้วยทรงห่วงใยอาณาประชาราษฎร์เป็นสำคัญ.
Discussion about this post