ต้นทุนชีวิตคนเราไม่เท่าไร ชื่นชมสองสามีภรรยาชาวจ.อุดรธานี ขายของอาหารเดลิเวอร์รี่ช่วยส่งค่ารถหนุ่มเดินเท้าเปล่าเดินไกลไปบึงกาฬ ระยะทางเกือบ 281 กม. ชาวเน็ตแห่ชื่นชมน้ำใจงามช่วยคนไทยด้วยกัน
วันนี้ (29 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวราย งานว่า ในเฟสบุ๊คของผู้ใช้ท่านหนึ่งชื่อ Jum Eyebrows และ Dok Morradok สองสามีภรรยาชาวต.ผักตบ อ.หนองหาน จ.อุดร และเป็นพ่อค้าขายของเดลิเวอร์รี่ประเภทเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ได้โพสต์คลิปและข้อความว่า ชีวิตที่ต้องดิ้นรน ระหว่างที่ไปส่งกุ้งลูก ค้า อ.โนนสะอาด อุดร ขากลับเห็นพี่ผู้ชายเดินอยู่ข้างถนน น่าจะเดินมาเรื่อยๆหลายกิโล เรา 2 คนไม่ลังเลที่จะจอดถาม อากาศร้อนมากๆแดดจัดช่วงบ่าย ได้ความว่าเดินมาจาก ขก. กำลังจะกลับบึงกาฬโดยใช้วิธีเดินเท้า เพราะไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท ไม่มีงาน เลยจะกลับไปทำนาทำสวนที่บ้าน ระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆเลย เราให้พี่เขานั่งท้ายกะบะเพื่อเข้าเมืองกุมภวาไปด้วยกัน แวะจอดเลี้ยงข้าว เลี้ยงน้ำ เพราะไม่ได้กินตั้งแต่เมื่อคืน และพาไปส่งที่ บขส. ให้เงินไว้จำนวนหนึ่งเพื่อซื้อตั๋วลงอุดรและต่อรถไปบึงกาฬอีกที เงินไม่มากแต่อยากให้พี่มีกำลังใจสู้ต่อไปเด้อ พี่ไก่เฉลิมพล อยากแบ่งปันพลังบวกการให้เพียงเล็กน้อยแค่นี้มันฮีลใจได้ดีเหลือเกิน พักเมื่อท้อไปต่อเมื่อพร้อม สอบถามทราบว่า ชื่อนายไก่ เฉลิมพล ชาว อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เดินเท้าเปล่าจากบึงกาฬไปหางานทำที่จ.ขอน แก่น แต่ไม่ได้งานทำ จึงเดินทางกลับเท้าเปล่า เพราะใกล้ถึงฤดู กาลทำนาแล้ว แต่โชคดีที่สองสามีภรรยาส่งค่ารถเลี้ยงข้าวส่งกลับให้ถึงบ้าน ขณะที่ชาวเน็ตได้ไปคอมเม้นแห่ชื่นชม สองสามีภรรยา ที่ช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน เห็นแววตาพี่เขาดีใจมากเราก้อสุขมากเช่นกันจ้า ผลบุญนำพาเด้อแม่ การแบ่งปันคือสิ่งที่ดีงาม …. สาธุนำเด้อ ดีต่อใจจ้า ทำดีได้ดี สุดยอดน้ำใจครับ ขอบคุณน้ำใจดีๆนะคะฟังแล้วดีใจแทนพี่เค้าเลย
ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายยุทธนา วงศ์คำพระ อายุ 36 ปี ชื่อเล่น มรดก พ่อค้าขายสินค้าเดลิเวอร์รี่ เปิดเผยว่า เมื่อบ่ายวานนี้ ตนเองและภรรยาเดินทางไปส่งอาหารกับลูกค้าที่อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี สังเกตุผุ้ชายตามคลิป เดินเท้าเปล่าจะไปที่ไหนสักแห่ง จึงจอดรถไปสอบถาม ทราบว่า ชื่อไก่ เฉลิมพล เดินเท้าเปล่าจากจ.ขอนแก่น เพื่อกลับบ้านที่อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เมื่อวัดระยะทางไกลมาก 281 กม.เลยทีเดียว พี่เขาบอกอีกว่า เพราะตกงาน ไม่มีเงินติดตัวสักบาท ใกล้ถึงฤดูกาลทำนาแล้วจะกลับไปบ้าน ตนและภรรยาเห็นแล้วสงสารจึงบอกให้ขึ้นรถกระบะท้ายรถมาที่ อ.กุมภ วาปี เพื่อไปส่งบขส.แต่รถไม่มี จึงพาไปทานข้าว และให้เงินจำนวน 400 บาทขึ้นรถไปที่บขส.อุดรธานีให้พี่เขาไปขึ้นรถกลับบ้านทันที สาเหตุที่ช่วยเพราะต้นทุนชีวิตคนเราไม่เท่ากัน เห็นคนตกทุกข์ได้ยากก็ช่วยเหลือกัน ผมก็เลยลำ บาก เมื่อวานแดดร้อนมาก ขนาดอยู่ในรถยังร้อน เดินเท้าเปล่าริมถนน ผมและภรรยารู้สึกสบายใจที่ได้ช่วยพี่เขา คนไทยก็ช่วยเหลือกันไป แม้จะช่วยไม่ได้เยอะ ก็ถือ ว่าช่วยเหลือกันไป พ่อค้าเดลิเวอร์รี่กล่าวตอนท้าย.
Discussion about this post