‘เต้ มงคลกิตติ์’ หน.พรรคไทยศรีวิไลย์ นำทีมลงพื้นที่เมืองช้าง ขอคะแนนเสียง ย้ำชัดนโยบายพรรคไม่โอเค ยกเลิก ม.112

วันที่ 2 พ.ค.66 ที่ จ.สุรินทร์ เต้-มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เบอร์ 42 พร้อมคณะได้ลงพื้นที่หาเสียงในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ โดยได้เข้ากราบไหว้ศาลหลักเมืองสุรินทร์และอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม) สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและที่เคารพนับถือของชาวสุรินทร์ จากนั้นได้ขึ้นรถหกล้อ แห่หาเสียงไปตามถนนเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ไปยังตลาดสดเทศบาลเมือง ก่อนหยุดรถหน้าตลาดปราศรัยหาเสียงขอคะแนนจาก พี่น้องประ
ชาชนชาวสุรินทร์ พร้อมชูนโย บายของพรรคไทยศรีวิไลย์ ทั้งด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ปากท้องของประชาชน ถึงแม้จะไม่ได้ส่งผู้สมัครส.ส.เขต ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ก็ตาม แต่ก็ขอให้ช่วยสนับสนุนพรรคไทยศรีวิไลย์ และเทคะแนนเสียงให้กับพรรค อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พร้อมฉะพรรคก้าวไกล ไม่เห็นด้วยกับการแก้กฎหมายมาตรา 112 และไม่ขอร่วมกับพรรคการ เมืองที่พยายามแก้ไขกฎ หมายมาตรา 112 แต่พร้อมเข้าร่วมกับพรรคที่จะมาแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนให้มีความอยู่ดีกินดี และจากนั้นได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดศรีสะเกษ ต่อไป

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า แม้ไม่ได้ส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขตทั้งในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ทั้ง 8 เขตเลือกตั้ง แต่ประชาชนสามารถเลือกแบบบัญชีรายชื่อได้ ในนามพรรคไทยศรีวิไลย์ได้ หมายเลข 42 โดยพรคคไทยศรีวิไลย์ มีนโยบายที่ชัดเจนต่อพี่น้องประชาชนทั้งในจังหวัดสุรินทร์โดยตรง คือนโยบายการตั้งนิคมเกษตรกรรมประจำจังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งจังหวัดอื่นๆที่มีพื้นที่เกษตร กรรม การตั้งนิคมเกษตรกรรมจะทำให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปุ๋ย การค้าขาย และอีกหลายเรื่องที่จะทำให้พี่น้องเกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งการบริหารจัด การน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้เพียงพอต่อการทำการเกษตร รวมถึงแนวทางในการลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งเรื่องของพลังงานทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน

โดยพรรคไทนศรีวิไลย์มีแนวทางในการแก้ไขปัญหา เช่น การซื้อหุ้น ปตท.คืน โดยการออกพระราชกำหนดตั้งกองทุนน้ำมันขึ้นมาประมาณ1- 5 ล้านล้านบาท เพื่อซื้อหุ้น ปตท.คืน 49 % คืนมา เราก็จะได้โรงกลั้นที่มีกำลังการผลิตน้ำมันต่อวันประมาณ 60% ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทั้งหมด ก็จะทำให้สามารถควบคุมกลไกราคาได้ ราคาจะไม่แพงเกินไปอาจเหลือแค่ 80 สตางค์ต่อลิตร ไม่ใช้ 5 บาท 6 บาทแล้วเฟ้อไปเรื่อยๆ น้ำมันก็จะถูกลงลิตรละ 4-5 บาท ต่อลิตร อีกส่วนหนึ่งถ้าหากเราซื้อหุ้น ปตท.คืนได้ ปตท.ก็ไม่จำเป็นต้องมีกำไรเยอะ ปตท. เป็นเจ้าของ มีหน้าที่สำรวจขุดเจาะ และผลิต ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเราสามารถที่นำเอาก๊าซธรรมชาติที่เราผลิตเองมาขายให้กับโรงงานไฟฟ้าในราคาถูก ก็จะทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำลง อีกส่วนคือค่า Ft หรือค่าสำรองไฟฟ้าในอนาคต เรามีเกินอยู่ถึง1 หมื่น 8 พันเมกวัตร์ เราคงต้องออกพระราชกำหนดในการยกเลิกไฟฟ้าเอกชน สมัยที่พลเอกประยุทธ ไปทำสัญญาไว้ 25 ปี ซึ่งจะทำให้ค่าFT ลดลงจะทำให้แนว ทางการแก้ไขปัญหาดีขึ้น รวมทั้งการหารายได้เพิ่มเติม เพื่อมาดูและพี่น้องคนชรา ซึ่งเราก็จะออกพระราชกำหนดเรื่องหวยบนดินเอาเงินภาษีมาดูแลคนป่วย คนชรา และการเปิดเขตเศรษฐกิจคาสิโนชั้นสูง เป็นรายได้มาจากชาวต่างชาติ 100% ก็จะเอามาดูแลพี่น้องประชาชนคนยากจน 20 ล้าน 5 แสนคน คนละ 3000 บาท รวมถึงพี่น้องทหารผ่านศึกที่มีอยู่ประ มาณ 2 แสนกว่าคนทั่วประเทศ รัฐดูแลเพียงปีละ 1000 บาท ต้องเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ออกพระราชกำหนดเงินผดุงเกียรติ ซึ่งได้ยื่นและผ่านสภาไปแล้วประ มาณ 7 หมื่นกว่าคน

ตอนนี้เราตั้งใจว่าจะต้องมี ส.ส. มากพอสมควรที่จะรวมรัฐบาล ในการออกพระราชกำหนดเงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก เดือนละ 3,000 พันบาท ต้องใช้ประมาณ 9 พันล้านต่อปี รวมทั้ง อสม.และอพปร.ด้วย รวมทั้งพี่น้องผู้พิการ 2 ล้านกว่าคนทั่วประเทศ ที่เคยได้ 800 ก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 บาทด้วย และจะมีการออกกฏหมายที่สำคัญคือกฏหมายเกี่ยวกับสถานประกอบการหญิงบริการ หรือ เซ็กสเวิคร์เก้อ ให้ถูกกฎหมาย เพื่อให้ส่วยหมดไป ซึ่งเป็นภาษีอยู่ที่แสนห้าหมื่นล้าน-2 แสนล้าน ก็จะนำรายรับที่ได้มาดูแลเรื่องค่าบำรุงการศึกษาให้กับทุกระดับชั้น เป็นการทำให้ถูกกกหมาย ก็จะให้ระบบส่วยหมดไปรวมทั้งจะไม่มีการค้ามนุษย์อีกต่อไป เหมือนกับหลายๆชาติที่เขาทำกัน หลักที่สำคัญทำไมพรรคไทยศรีวิไลย์ต้องหาเงินเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นอัดฉีดในระบบเศรษฐกิจครอบ ครัวละแสนห้าหมื่นบาท เราไม่ได้ไปกู้เงินมา แต่เราจะปล่อยกู้ให้กับประชาชน เพื่อรีเทิร์นภาษีกลับมาถึง 6 แสนกว่าล้านบาทต่อปี ซึ่งจะอัดฉีดได้เพียงรอบเดียว เนื่องจากมียอดเงินงบประมาณที่สูง ประ มาณ 3.3 ล้านล้านบาท ให้นำไปใช้หนี้ในแต่ละครอบครัว 2 แสนกว่าครัวเรือน บางส่วนปรับโครง การสร้างหนี้ บางส่วนปรับโครง สร้างทางธุรกิจ ในการต่อยอดแต่ละครอบครัว ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานล่างที่สำคัญ ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคไทยศรีวิไลย์ รวมทั้งการจ่ายภาษีน้ำมันแทนประชาชนทั้ง เบนซิลและดีเซล ซึ่งมีมูลค่ากว่า 4 แสนล้าน โดยการนำรายได้จากเขตเศรษฐ กิจพิเศษนี้มาสวมต่อจ่ายให้กับประชาชน

หลักๆในการที่จะเลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้ชัดเจนมากขึ้นนั้นคือนโยบายเรื่องปากท้อง เศรษญกิจ และเรื่องความมั่นคงของรัฐ พรรคไทยศรีวิไลย์ มีจุดยื่นที่ชัดเจนไม่เหมือนพรรคอื่นๆ ซึ่งแต่ละพรรคก็มีความชัดเจนอยู่แล้ว มีแค่พรรคเดียวคือพรรคก้าวไกล ที่จะมีการแก้ประมวลอาญามาตรา 112 ซึ่งทางหัวหน้าพรรคก็ไปแปะสติกเกอร์เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566 ว่าจะยกเลิก ถ้าแก้ไขไม่สำเร็จก็จะพาพวกมายกเลิก ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ หลักของประเทศไทยที่สำคัญต้องมีพระมหากษัติริย์ ต้องมีสถาบันชาติ ศาสนา พระหมากษัติริย์ พรรคไทยศรีวิไลย์มีความยึดมั่น ชัดเจนว่า ไม่แก้ไข ไม่ยกเลิกประมวลกกหมายอาญามาตร 112 และอยากฝากต่อไปยังแกนนำพรรคบางพรรค ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยหาเสียง ให้มีการเปิดประชาวิจารณ์ว่าเราควรจะจ่ายภาษีดูแลสถาบันหรือไม่อย่างไร เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการชี้นำที่ไม่ถูกต้องเลย มากไปกว่านั้นและแรงไปกว่านั้นเยอะจนประชาชนรับไม่ได้และตนก็รับไม่ได้ เรื่องดังกล่าวตนมองว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ ฝากเตือนให้เลิกการ
กระทำซะ กฎหมายมาตรา 112 ไม่ได้รังแกใครครับ และย้ำชัดไม่ขอร่วมกับพรรคการเมืองที่พยายามแก้ไขและยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 อย่างเด็ดขาด แต่พร้อมเข้าร่วมกับพรรคที่จะมาแก้ไขปัญหาเรื่องเศรษกิจและปากท้องของประชาชนให้มีความอยู่ดีกินดี.