
เมื่อเวลา13.00น.วันที่ 11 พ.ค. 2566 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ทีมทนายความพรรคภูมิใจไทย นำโดยน.ส.ประภารัตน์ พิริยะอนันตกุล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายศุภชัย ใจสมุทร ผู้บริหารพรรคภูมิใจไทยเดินทางเข้ายื่นเอกสารหลักฐานเพื่อเอาผิดกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กรณีนัดพบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัว หน้าพรรคก้าวไกล ณ เวทีปรา ศรัยในตลาดนกฮูก โดยกล่าวหาใส่ร้ายใส่ความและมีพฤติกรรมที่อาจจะเข้าข่ายซื้อเสียงไม่ให้เลือกพรรคและผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย และคดีละเมิดและจงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคภูมิใจไทย ทำให้คะแนนนิยมพรรคภูมิใจไทยลดลง เป็นไปในทางลบ โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาทีมทนาย ความอีกชุดได้ยื่นต่อศาลแพ่งรัชดาเรียกค่าเสียหายนายชูวิทย์ เป็นเงิน 100 ล้านบาท พร้อมขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามนายชูวิทย์ เข้าอาคาร โชว์ ดีซี และห้ามก่อ กวนใกล้พรรค หรือสถานที่หาเสียงใหญ่ของพรรค จนถึงวันเลือกตั้งที่ 14 พ.ค.66 นี้
โดย น.ส. ประภารัตน์ เปิดเผยว่า วันนี้มาฟ้องคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ข้อ 1 ข้อ 2 ผิด (พรป.)พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งและมีการขอเพิ่มข้อหาตามมาตรา 92 ประมวลกฎหมายอาญา เนื่อง จากนายชูวิทย์เคยมีประวัติต้องโทษจำคุกมาก่อน ซึ่งส่วนเรื่องรายละเอียดอยู่ในสำนวนยังให้รายละเอียดมากไม่ ได้ตนได้มีการนัดกับศาลวันที่ 10 ก.ค.66 อีกครั้ง ซึ่งที่มีการฟ้องเกิดขึ้นเพราะชูวิทย์มีพฤติกรรมหมิ่นประมาท ซึ่งตนมีหลักฐานทุกอย่าง ตอนนี้อยู่ที่ศาลไต่สวน เพราะเป็นคดีอาญา เป็น การจัดให้เสนอให้ หลังจากที่ยื่นศาลแล้วจะร้องเรียนพรรคก้าวไกลต่อที่ยินยอมให้ชูวิทย์ขึ้นเวทีปราศัย ตนจะส่งฟ้องแค่ที่ตลาดนกฮูกเพราะอยู่ในพื้นที่นนทบุรี เพราะชูวิทย์ไม่ได้เป็นผู้ช่วยของพรรคก้าวไกล ส่วนที่ชูวิทย์ขี้นไปปราศัยที่พรรคอื่นก็จะฟ้องด้วย จะมีทีมงานของตนไปฟ้อง ทางเรามาใช้สิทธิตามกฏหมาย ตนจะให้ทาง กกต.ตรวจสอบมาตรการอีกทีว่าเรื่องหนักเบาหรือหนักแค่ไหน และก็มีกรณีอื่นอีกด้วยที่จะฟ้องไม่ได้มีแค่กรณีนี้กรณีเดียว ถ้าชูวิทย์ไม่หยุดขึ้นปราศัยทางพรรคก็จะฟ้องต่อ ตนจะร้องทุกพรรคที่มีชูวิทย์ขึ้นปราศัยอยู่.
Discussion about this post