ตร.ภาค 9 แถลงจับเครือข่ายนักค้ายารายสำคัญ พร้อมของกลางไอซ์มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท และทรัพย์สิน กว่า 9 ล้านบาท

วันนี้ 12 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานที่หน้าอาคารศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน) ภายในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลาจ.ยะลา พล.ต.ท. นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย นายพงศธร ธรรมชาติ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 9 และส่วนที่เกี่ยว ข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการปฏิ บัติการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ พร้อมของกลางยาเสพติดมูลค่ากว่า 60 ล้านบาทและทรัพย์สินอื่น ตามนโย บายรัฐบาลให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแหล่งแพร่ระบาด เป็นจุดพักยาและเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกอ.รมน.ภาค 4 ได้ระดมสรรพกำลังเพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังต่อเนื่อง

โดยเมื่อวันที่10 – 11พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ท. ศานติ สกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 , พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ,พล.ท.อุทิศ อนันตนานนท์ ผอ.สขว.กอ.รมน.ภาค4 สน.,นางพาตีเมาะ สะดียามู ผวจ.ปัตตานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจับกุม นายนิอารง หรือโซะ อารี อายุ 39 ปี ที่อยู่ 7/1 ซ.2 (ถนนแสงจันทร์) ถ.แสงจันทร์ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาที่ 1 น.ส.รอฮานา หรือนา อูเซ็ง อายุ34 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 นายมัสลัน หรือลัน อูเซ็ง อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 น.ส.สา (สงวนนามสกุล)อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 นายมะยูโซะ หรือโซะ มามะ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาที่ 5 นายมูฮัมหมัดรีซูวัน หรือวัง เจ๊ะอุเซ็ง อายุ 20 ปี จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาที่ 6 นายอับดุลรอมัน หรือรอมัน อารอนิง อายุ30 ปี ผู้ต้องหาที่ 7 และนายฟารฮาน หรือฮัน หะมะ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ 8 พร้อมด้วยของกลางไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 637 กิโลกรัม รถ ยนต์บรรทุกสิบล้อ จำนวน 3 คัน รถยนต์กระบะจำนวน 1 คัน โทร ศัพท์มือถือพร้อมซิมการ์ด จำนวน 9 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์หรือไอซ์) อันมีลักษ ณะเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฏหมาย

เหตุเกิดที่ ด่านตรวจเกาะหม้อแกง ม.7 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตา นี เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 13.30 น. และบริเวณริมถนนสาย ตากใบ – สุไหงโกลก ม.7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหง โกลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 เวลาประ มาณ 04.00 น. ต่อเนื่องกัน พฤติ การณ์ในการจับกุมกล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส. จชต. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร , ฝ่ายปกครอง และสำนักงานป.ป.ส.ภาค 9 ทำการสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง และเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้านทำการลักลอบลำเลียงยาเสพติดชนิดไอซ์ และยาบ้าจากพื้นที่ภาคกลางมาส่งจำหน่ายให้กับเครือข่ายในพื้นที่ภาคใต้และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีลักษณะเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติจากการสืบสวนทราบว่ามีนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.นราธิวาส เครือข่ายนายโซะ ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการรับจ้างขนสินค้าบังหน้า อยู่ในเครือข่ายดังกล่าว และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถติดตามจับกุมบุคคลในเครือข่ายได้จำนวนหลายราย และได้ทำการขยายผลเพื่อทำลายเครือข่ายมาโดยต่อเนื่อง กระทั่งต่อมาก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบ สวนทราบว่าเครือข่ายของนายโซะ ได้มีการติดต่อกับเครือข่ายในประเทศเพื่อนบ้าน มีการเตรียมการที่จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดชนิดไอซ์ล๊อตใหญ่จากพื้นที่ภาคกลางเพื่อส่งจำหน่ายให้เครือข่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ในการซุกซ่อนลำเลียงยาเสพติด จึงได้ประชุมวางแผน ทำการสืบสวนติดตามจับกุมกระทั่งทราบข้อมูลยานพาหนะที่เครือข่ายดังกล่าว ใช้ในการลำ เลียงยาเสพติดในครั้งนี้ หลังจากนั้นได้วางแผนจัดกำลังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง กระทั่งในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำ การติดตามและสกัดตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาที่ 1- 7ได้พร้อมของกลางได้บริเวณด่านตรวจเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ อ.หนอง จิก จ.ปัตตานี

ต่อมาได้ทำการขยายผลเพื่อทำ ลายเครือข่ายและสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ 8 ซึ่งเป็นเครือข่ายที่รอรับยาเสพติดของกลางเพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้ในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส หลังจากนั้นจึงได้ควบคุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

ในการนี้ได้ทำการตรวจยึดทรัพย์ สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิด เพื่อดำเนินการตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 จำนวน 12 รายการ รวมมูลค่าประมาณ9,250,000 บาท และจะได้สืบสวนขยายผลติดตามยึดทรัพย์ของผู้ต้องหา และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฏหมายกับเครือข่ายที่ร่วมกระ ทำผิดและยังไม่ถูกจับกุม.